เป็นเหตุการณ์เตือนภัยจากคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งพบกับมิจฉาชีพที่อยากทำตัวเป็นหนุ่มสายเปย์ หลังจากพาหญิงสาวมาทำศัลยกรรมจมูก แต่ส่งสลิปปลอมให้คลินิกเสริมความงาม ก่อนที่ความจะแตกและทิ้งแฟนสาวไว้ที่คลินิกแล้วหนีไป
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ Pmed Clinic คลินิกเสริมความงามย่านจตุจักร นพ.ปิยพล พัฒนครู แพทย์ประจำพีเมด คลินิก ( Pmed Clinic ) เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ในกรณีที่มีนายบอย (นามสมมุติ) มิจฉาชีพชายคนหนึ่ง หลอกสลิปโอนเงินปลอม เมื่อพนักงานรู้ตัว รีบหนีออกนอกร้าน
นพ.ปิยพล กล่าวว่า นายบอยได้พาแฟนสาวมาปรึกษา จะทำศัลยกรรมจมูก ซึ่งทางคลินิกก็ให้โอนเงินมัดจำมาก่อน 10,000 บาท นายบอยบอกว่า จะโอนมาให้เป็นเงินจำนวนเต็มเลย 162,000 บาท ส่งสลิปโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จ
ต่อมา วันที่ 30 ต.ค. คลินิกนัดทำศัลยกรรมแล้ว พร้อมกับแจ้งย้ำเตือนอีกว่าเงินยังไม่เข้า ทางนายบอย ก็เลยบอกว่า น่าจะมีปัญหาที่ธนาคาร ขอเลื่อนจากวันที่ 30 ต.ค. เป็นนัดทำในอาทิตย์ต่อมา จนกระทั่งวันที่ 3 พ.ย. นายบอยพาแฟนสาวมาทำศัลยกรรมแล้ว แต่แฟนสาวดันดื่มน้ำเข้าไป ทำให้หมอต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ 4 พ.ย.
นพ.ปิยพล กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันที่ 4 พ.ย. นายบอยพาแฟนสาวมาทำศัลยกรรม ทางพนักงานที่คลินิกก็แจ้งว่า เงินยังไม่เข้ามาเลย ในขณะที่แฟนสาวได้ไปเตรียมความพร้อมเพื่อจะทำศัลยกรรมแล้ว ทางด้านนายบอยก็เริ่มมีท่าทีลุกลี้ลุกลน แล้วบอกว่า จะออกไปกดเงินสดให้ สงสัยธนาคารน่าจะมีปัญหา จากนั้น เขาก็ออกจากร้านไปเลย
ด้านแฟนสาว พยายามจะโทรติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ พนักงานจึงได้เห็นว่าผิดปกติ ก็เลยนำชื่อไปค้นหาในกูเกิล ปรากฎว่า นายบอยมีประวัติเหมือนเป็นมิจฉาชีพ ที่หลอกโอนเงินเป็นสลิปโอนล่วงหน้าแล้วกดยกเลิกที่หลังอยู่หลายเคส ทำให้รู้ว่า นายบอย เป็นมิจฉาชีพ ซึ่งทางแฟนสาวก็ตกใจ และยืนยันกับเราว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะเพิ่งคบหาดูใจกันได้ไม่นาน และที่ผ่านมา นายบอยก็โอนเงินให้กับพ่อแม่ของตนที่อยู่ลาว เป็นสลิปลักษณะแบบนี้เหมือนกัน
ทั้งนี้ เราไม่ได้แจ้งความอะไร เพราะเขามีคดีติดตัวเกี่ยวกับการโกงเงินอยู่แล้ว จึงอยากให้เคสนี้ เป็นเคสตัวอย่าง ฝากเตือนภัยทุกคน ว่าปัจจุบัน เราใช้การโอนเงินผ่านแอพพลิเคชันเป็นประจำ ก็อยากจะให้พ่อค้าแม่ค้า และทุก ๆ คน ตรวจสอบสลิปให้ดี ว่าเป็นการโอนเงินสำเร็จแล้ว หรือเป็นการตั้งโอนเงินสำเร็จกันแน่ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวเสียหายภายหลัง นพ.ปิยพล กล่าว