อองโตนี มาร์กซิยัล กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ แมนฯยู เปิดอกคุยกับ ราล์ฟ รังนิก กุนซือใหญ่ของทีมเพื่อขอย้ายทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วง ม.ค.นี้ แล้ว
มาร์กซิยัล ย้ายมาจากโมนาโก เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ เป็นนักเตะวัยรุ่นที่ค่าตัวสูงที่สุดในเวลานั้น โดยลงสนามให้ทีมไป 268 นัด ยิงไป 79 ประตู แต่ในระยะหลัง ต้องตกเป็นตัวสำรองของทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด, เอดินสัน คาวานี, เจดอน ซานโช่และฤดูกาลนี้ได้โอกาสลงสนามไปแค่ 10 นัดเท่านั้น
ล่าสุด รังนิก กุนซือชาวเยอรมนีระบุว่า มาร์กซิยัล เข้ามาพบและขอย้ายออกจากทีมแล้ว และ ฟิลิปเป ลอมโบเลย์ เอเยนต์ส่วนตัวจะแจ้งเรื่องนี้กับสโมสรอย่างเป็นทางการ
“ผมคิดว่าเป็นเส้นทางที่พอจะเข้าใจได้ แม้เราจะทำตามความต้องการของเขา แต่ในทางกลับกันก็เป็นสถานการณ์ที่สำคัญ เราต้องเผชิญกับช่วงเวลาของโควิด-19 และเรามี 3 รายการซึ่งเราต้องการประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เวลานี้ยังไม่มีข้อเสนอเข้ามาจากทีมไหน ในกรณีนี้เขาก็จะยังอยู่กับทีมต่อไป”
นอกจากนี้ รังนิก ยังยอมรับว่าการซื้อนักเตะคนใหม่เข้ามาจะมีเรื่องของการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข้ามาเป็นตัวแปรในการพิจารณาด้วย
“สถานะวัคซีนจะเป็นสิ่งที่เราจะพิจารณาการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ สโมสรซีเรียสกับเรื่องนี้ ถ้าเซ็นนักเตะที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้ามา เราต้องตระหนักว่าเขาอาจจะไม่พร้อมใช้งานตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่แค่เรื่อง 10 วันเท่านั้น” รังนิก เผย
รายงานข่าวระบุว่านักเตะเพียง 84% ในพรีเมียร์ ลีกเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบโดส ขณะที่ 16% ยังไม่ฉีด ซึ่งรังนิก มองว่า ปัญหาของ โจชัว คิมมิค กองหลังทีมชาติเยอรมนีของ บาเยิร์น เป็นกรณีศึกษาที่ไม่ฉีดวัคซีน และต้องได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่ปอดจนไม่สามารถลงแข่งขันได้
“เขาลังเลกับเรื่องนี้มาก่อน และผมเชื่อว่าเขาได้รับรู้แล้วว่าการฉีดวัคซีนเป็นความคิดที่ดี เขาเคยติดโควิด-19 และมันทำให้ปอดมีปัญหา จริงอยู่ว่าทุกคนมีความเป็นเสรี แต่ในฐานะนักฟุตบอลซึ่งเล่นในระดับนี้ เราควรโน้มน้าวให้พวกเขาเข้ารับการฉีดวัคซีน”