สื่อสังคมออนไลน์ “เธรดส์” ของบริษัท เมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) กลายมาเป็นแอปที่โตเร็วที่สุดแทนที่ แชตจีพีที (ChatGPT) เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา หลังแพลตฟอร์มล่าสุดจากบริษัทเจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) รายงานตัวเลขผู้ลงชื่อใช้งานเกิน 100 ล้านคนภายในเวลา 5 วัน จากการเปิดเผยของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทแห่งนี้
นับตั้งแต่เปิดตัวออกมาเมื่อวันพุธที่แล้ว “เธรดส์” ทำสถิติตัวเลขผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นรวดเร็วเป็นประวัติการณ์มาอย่างต่อเนื่อง จนนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า นี่คือสัญญาณเตือนภัยสัญญาณแรกที่ทวิตเตอร์ซึ่งมี อิลอน มัสก์ เป็นเจ้าของอยู่ ควรรับรู้ไว้
ในการประกาศข่าวในวันจันทร์ ซัคเคอร์เบิร์ก ระบุในโพสต์ทาง “เธรดส์” ว่า “นั่นคือ[ตัวเลข]ความต้องการแท้ ๆ เป็นส่วนใหญ่ และเราก็ยังไม่ได้เริ่มทำการโปรโมทใด ๆ เลยด้วย”
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ChatGPT ได้รับการขนานนามว่าเป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนหลังการเปิดตัวออกมา ตามการวิเคราะห์ของธนาคาร UBS
การขยายตัวฐานผู้ใช้งานอย่างรวดเร็วของ “เธรดส์” นั้น ตอกย้ำความกังวลเรื่องการแข่งขันของทวิตเตอร์ที่มีผู้ใช้งานรายวันที่เกือบ 240 ล้านคน ตามข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว หลังบริษัทแห่งนี้ขู่ที่จะฟ้องเมตาในข้อหาใช้ความลับทางธุรกิจและข้อมูลชั้นความลับอื่น ๆ ของตนมาสร้างแอปใหม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่า เป็นคำกล่าวอ้างที่พิสูจน์ได้อย่าง
รูปแบบของ “เธรดส์” นั้นมีความคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์อย่างมาก โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานโพสต์ข้อความได้มากสุดที่ 500 ตัวอักษร และสามารถโพสต์ลิงค์ ภาพถ่ายและวิดีโอความยาวสูงสุด 5 นาที แต่ยังไม่มีบริการส่งข้อความโดยตรงและยังไม่ได้พัฒนาเวอร์ชั่นสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมา รวมทั้งไม่มีฟังก์ชั่นติดแฮชแท็กและการใช้คำเพื่อการค้นหา ซึ่งล้วนทำให้ผู้ลงโฆษณายังไม่ค่อยจะสนใจเท่าใด
ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่ทวิตเตอร์มีปัญหาภายในจากหลายประเด็นนั้นเป็นโอกาสให้ “เธรดส์” ดึงดูดผู้ใช้งานและผู้ลงโฆษณาได้ง่ายขึ้น