เทรนด์แกล้งลูกฮิต เปิดฟิลเตอร์ผี ทิ้งอยู่ห้องลำพัง สนุกผู้ใหญ่แต่สร้างปมให้เด็ก

Home » เทรนด์แกล้งลูกฮิต เปิดฟิลเตอร์ผี ทิ้งอยู่ห้องลำพัง สนุกผู้ใหญ่แต่สร้างปมให้เด็ก



เทรนด์แกล้งลูกแบบใหม่ พ่อแม่เปิดฟิลเตอร์ผีลอยไปมาให้ลูกดู รีบวิ่งหนีทิ้งลูกอยู่ในห้องลำพัง เตือน พ่อแม่ชอบใจแต่ลูกอาจไม่สนุกด้วย!

หากใครชอบเล่นติ๊กต็อกจะพบว่าช่วงนี้มีคอนเทนต์หนึ่งกำลังมาแรง เป็นคอนเทนต์ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากแกล้งลูก โดยเปิดฟิลเตอร์มีเอฟเฟกต์ผีสีฟ้าลอยไปมา พร้อมกับมีเสียงที่น่าขนลุก จากนั้นทางพ่อแม่จะรีบวิ่งออกนอกห้อง ล็อกประตูปล่อยให้ลูกตกใจกับเอฟเฟกต์นี้ตามลำพัง

เทรนด์การแกล้งลูกครั้งนี้มีกระแสตอบรับที่หลากหลาย บ้างก็ตลกกับรีแอกชั่นของเด็ก ๆ ยามร้องไห้หรือตกใจกลัว แต่เสียงส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นเทรนด์ที่ไม่น่าทำตามอย่างยิ่ง สิ่งที่ได้อาจเป็นเพียงความสนุกของพ่อแม่แต่ลูกต้องทนทุกข์ มีอาการหวาดกลัว จนอาจเป็นการสร้างปมในใจและพัฒนาเป็นปัญหาต่าง ๆ เช่น โรคกลัว โรควิตกกังวล และทำให้เกิดบาดแผลทางใจในระยะยาวได้

ล่าสุดเพจ Mother and Child Channel ร่วมพูดถึงกรณีนี้ด้วย โดยกล่าวว่าช่วงนี้เทรนด์แกล้งเด็กอยู่ในห้องกำลังมาแรง พ่อแม่นำคลิปการแกล้งลูกมาโพสต์ลงโซเชียล เรียกยอดไลก์ยอดแชร์สนั่น แต่สำหรับบางคนที่โดนแกล้งแล้วอาจจะไม่สนุกตามก็ได้

มีคุณแม่ท่านหนึ่งได้แบ่งปันเรื่องราวเพื่อใช้เป็นอุทาหรณ์ โดยเล่าว่า มีญาติพาลูก ๆ มาเที่ยวที่บ้าน ขณะที่เธอทำธุระอยู่ชั้นล่าง เธอก็ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ดังมาจากชั้นบนจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู

สิ่งที่พบคือลูกของญาติที่โตกว่ากำลังหัวเราะสนุกสนาน ดึงประตูด้านนอกเอาไว้ ก่อนจะยอมปล่อยลูกบิดให้ลูกของเธอวิ่งร้องไห้ออกมา ลูกของเธอมีอาการหวาดกลัว เนื้อตัวสั่นเทา ขณะที่ลูกของญาติหัวเราะชอบใจและวิ่งหนีลงไปชั้นล่าง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอโกรธมาก แต่ด้วยความที่เป็นญาติจึงทำได้เพียงเก็บอารมณ์โกรธไว้

หลังจากญาติกลับไป ลูกของเธอมีอาการผวา หวาดระแวง กลัว ชี้ไปที่มุมต่าง ๆ ภายในห้อง นอนไม่หลับจนไข้ขึ้น เธอมองว่าการเล่นแบบนี้มันไม่ตลกสักนิด เราไม่ควรปลูกฝังความกลัวให้กับเด็ก อยากเตือนให้ทุกครอบครัวระมัดระวังการแกล้งเด็กในลักษณะนี้ เพราะผลเสียที่ตามมาอาจมากกว่าเท่าตัว

สำหรับเทรนด์แกล้งลูกดังกล่าวไม่ได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แค่ในไทย สื่อต่างประเทศเริ่มพูดถึงเทรนด์ครั้งนี้เช่นกัน โดยมองว่ามันเป็นความคิดที่แย่ และเป็นเทรนด์ที่โหดร้ายสำหรับเด็ก ๆ มาก อย่างกรณีของอินฟลูเอนเซอร์สิงคโปร์คนหนึ่ง ได้เผยแพร่วิดีโอแกล้งลูกชายวัย 4 ขวบด้วยเทรนด์ดังกล่าว โดยวิดีโอของเธอมียอดเข้าชมสูงถึง 23 ล้านครั้ง และแน่นอนว่าเธอโดนกระแสสังคมตีกลับเป็นจำนวนมาก จนต้องออกมาโพสต์วิดีโอตอบกลับเลยทีเดียว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ