ศึกแดงเดือด วาระพิเศษรายการเดอะแมตช์ แบงค็อก เซนจูรี คัพ 2022 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-ลิเวอร์พูล
การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรสโมสร เดอะแมตช์ แบงค็อก เซนจูรี คัพ 2022 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ศึกแดงเดือด วาระพิเศษระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้มีผู้ชมเข้าชมทั้งหมด 50,248 คน
เกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการประเดิมคุมทีมนัดแรกของ เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ มาในระบบ 4-2-3-1 ดาบิด เด เคอา : ดิโอโก ดาโลต์, วิกตอร์ ลินเดเลิฟ, ราฟาเอล วาราน, ลุก ชอว์ : เฟร็ด, สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ : มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นานเดส, เจดอน ซานโช : อองโธนี มาร์กซิอัล
ส่วนลิเวอร์พูลวางหมาก 4-3-3 อลิสสัน เบ็กเกอร์ : ไอซิก มาบายา, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โจ โกเมซ, ลุก แชมเบอร์ส : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ไทเลอร์ มอร์ตัน, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ : ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โรแบร์โต ฟีร์มิโน, หลุยส์ ดิอาซ
เริ่มเกมมา 3 นาที ลิเวอร์พูลมีเสียวก่อน ไอซิก มาบายา กระชากหนีกองหลังทางริบกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วเปิดพุ่งเข้ากลาง ดาบิด เด เคอา ต้องใช้เท้าสกัดไว้
นาที 10 โอกาสเป็นของลิเวอร์พูลอีกครั้ง หลุยส์ ดิอาซ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายจนถึงพื้นที่เขตโทษ ก่อนกระชากผ่านแนวรับแล้วยิงด้วยขวากะให้เสียบเสาสอง ดาบิด เด เคอา ยังบินปัดทิ้งได้ทัน
นาที 12 บรูโน แฟร์นานเดส เปิดบอลเข้าเขตโทษ ไอซิก มาบายา โหม่งสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง เจดอน ซานโช ยิงเสียบตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ดนำก่อน 1-0
นาที 18 ลิเวอร์พูลมีโอกาสลุ้นตีเสมอ ลุก แชมเบอร์ส ยิงในเขตโทษติดบล็อกกองหลัง 2 รอบ จากนั้นลูกมาเข้าทาง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ตวัดยิงไปชนเสา แต่บอลก็ยังอยู่กับฝั่ง “หงส์แดง” หลุยส์ ดิอาซ พาบอลตัดเข้ากลางแล้วยิงด้วยขวาไปชนเสาอีก
นาที 26 แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลุ้น บรูโน แฟร์นานเดส จ่ายบอลทางด้านขวาเข้ากลางให้ สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ยิงจากบริเวณเส้นหน้าเขตโทษ ลูกตรงตัว อลิสสัน เบ็กเกอร์ รับเอาไว้ได้
นาที 30 แมนฯ ยูไนเต็ดพยายามประสานงานเพื่อเจาะเข้าเขตโทษ แนวรับลิเวอร์พูลสกัดแล้วทำได้ไม่ดีบอลเลยหลุดมาหน้าเขตโทษ เฟร็ด จึงบรรจงยิงให้ลอยข้ามหัวนายทวารเสียบตาข่ายสุดงาม สกอร์กลายเป็น 2-0
หลังจากนั้นลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวนักเตะ 10 คนยกเว้นผู้รักษาประตู โฌเอล มาติป, คอสตาส ซิมิกาส, เคอร์ติส โจนส์, รีส์ วิลเลียมส์, เมลคามู ฟรอยเอ็นดอร์ฟ, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, เลห์ตัน คลาร์กสัน, บ๊อบบี คลาร์ก, สเตฟาน ไบเชติช ลงสนาม
นาที 33 แนวรับลิเวอร์พูลเล่นพลาดในแดนตัวเอง อองโธนี มาร์กซิอัล จึงฉกได้แล้วกระชากเข้าไปถึงในเขตโทษ ก่อนยิงให้ลอยข้ามผู้รักษาประตูเข้าสู่ก้นตาข่ายนิ่มๆ แมนฯ ยูไนเต็ดทิ้งไปไกล 3-0
นาที 36 เจดอน ซานโช ได้บอลดทางริมเส้นกราบขวา แล้วไหลตัดแนวรับให้ ดิโอโก ดาโลต์ สอดมารับก่อนซัดมุมแคบในเขตโทษ บอลชนเสาแรกเต็มๆ แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ได้ประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก “ปีศาจแดง” นำสบาย 3-0
ครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดเปลี่ยนผู้เล่น 10 คนยกเว้นผู้รักษาประตู อันโตนี อีลังกา, ไทเรลล์ มาลาเซีย, อเล็กซ์ เตลเลส, เอริก ไบญี, อารอน วาน-บิสซากา, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ก, ชาร์ลี ซาเวจ, ซีดาน อิกบัล, ฟากุนโด เปยิสตรี, อาหมัด ดิยัลโล ลงสนาม ส่วนลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนผู้รักษาประตู อาเดรียน ลงเฝ้าเสาแทน อลิสสัน เบ็กเกอร์
นาที 61 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนอีก 10 คนยกเว้นผู้รักษาประตู ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟาบินโญ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดก์, อิบราฮิมา โคนาเต, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาบี เกอิตา, โธมัส ฮิลล์, ติอาโก อัลคันตารา ลงสนาม
นาที 77 เอริก ไบยี่ กองหลังดันขึ้นสูงขึ้นมาทำเกม ก่อน อาหมัด ดิยัลโล ทำชิ่งให้ ฟาคุนโด เปเยสตรี เข้าไปยิงให้ แมนฯยูนำห่าง 4-0
นาที 87 ลิเวอร์พูลยังตีไข่แตกไม่สำเร็จ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปั่นจากบริเวณด้านขวาของเขตโทษไปชนเสาสอง ดาร์วิน นูนเญซ พยายามยิงซ้ำก็โด่งข้ามคานอีก
นาที 90+3 จนแล้วจนรอดลิเวอร์พูลก็ตีไข่แตกไม่สำเร็จ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลได้แล้วยิงระยะเผาขนหน้าประตู ทอม ฮีตัน ยังบล็อกได้อีก จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดชนะขาดลอย 4-0
โดย “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะออกไปยังประเทศออสเตรเลีย ต่อทันทีในเวลา 23.45 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยจะออกเดินทางในวันที่ 13 ก.ค.65 13.30 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ