เกิดเหตุอุกอาจขึ้นที่ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อกลุ่มชายติดอาวุธบุกสถานีโทรทัศน์ระหว่างออกอากาศสด หลังผู้นำประเทศเพิ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปเมื่อ 2 วันก่อน

วันนี้ (10 ม.ค.2567) ความมั่นคงในเอกวาดอร์สั่นคลอนอย่างมากหลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้ากลุ่มอาชญากรรมกลุ่มใหญ่หายตัวไปจากเรือนจำความปลอดภัยสูง ส่งแรงกระเพื่อมให้เกิดการจลาจลตามเรือนจำ และเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ

กลุ่มชายติดอาวุธ ซึ่งมีทั้งปืนและระเบิด สวมเครื่องปกปิดใบหน้า บุกเข้าไปในห้องส่งของสถานีโทรทัศน์ TC ในเมืองกวายากิล จังหวัดกวายาส ทางตะวันตกของเอกวาดอร์ ก่อนจะข่มขู่และบังคับให้พนักงานนอนลงกับพื้น โดยที่การแพร่ภาพยังดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง และบางช่วงมีเสียงปืนดังขึ้นด้วย

หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่โดยรอบ เปิดปฏิบัติการบุกเข้าไปในที่เกิดเหตุภายในสถานีโทรทัศน์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเอกวาดอร์ เปิดเผยภายหลังว่า อพยพพนักงานออกจากสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน

เหตุอุกอาจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเมื่อวันจันทร์ ดาเนียล โนบัว ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนาน 60 วัน สืบเนื่องจากการหลบหนีออกจากเรือนจำของหัวหน้ากลุ่มอาชญากรรม ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในประเทศ

ขณะที่หลังเหตุบุกสถานีโทรทัศน์ ผู้นำเอกวาดอร์ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ประกาศว่า เอกวาดอร์อยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งติดอาวุธภายในประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีกลุ่มอาชญากรรมหลายกลุ่มเป็นกลุ่มก่อการร้าย และเป็นตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ

ด้านหน่วยงานราชฑัณฑ์เอกวาดอร์ เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่เรือนจำ 6 แห่งทั่วประเทศ และจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังเข้าตรวจสอบอย่างเข้มงวด และช่วงเช้ามืดวานนี้ (9 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุผู้ต้องขังกว่า 40 คน หลบหนีออกจากเรือนจำอีกแห่งหนึ่ง ในเมือง Riobamba ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังที่เป็นราชายาเสพติดรวมอยู่ด้วย

เหตุวุ่นวายเหล่านี้เกิดขึ้น หลังจาก Jose Adolfo Macias ฉายา “Fito” วัย 44 ปี หัวหน้ากลุ่ม Los Choneros เครือข่ายอาชญากรรมและค้ายาเสพติด หลบหนีออกจากเรือนจำ ระหว่างรับโทษจำคุก 34 ปี

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ไม่พบตัวฟิโตในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ระหว่างตำรวจกำลังจะย้ายตัวเขาไปยังอีกแดนหนึ่งภายในเรือนจำความปลอดภัยสูงสุดแห่งเดียวกัน ซึ่งเป็นเหตุที่จุดประกายให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วประเทศ ทั้งการลักพาตัวตำรวจ และเหตุจลาจลตามเรือนจำอื่น ๆ จนนำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การบุกสถานีโทรทัศน์เกี่ยวข้องกับการหลบหนีออกจากเรือนจำหรือไม่ แต่ชัดเจนว่าเป็นเหตุที่สะท้อนความไม่สงบในเอกวาดอร์ และทำให้มหาวิทยาลัยในกวายากิลสั่งระงับการเรียนการสอนแล้ว