‘เต้’ เสียใจมาก กกต.เบรก ว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยา ชี้รับบริจาคผิดกฎหมายเลือกตั้ง เตรียมยื่นนายกฯ ขอคืนเงินเรือดำน้ำ-ตัดงบไม่จำเป็น
จากกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ประกาศเจตจำนงค์ในการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหารายได้นำเงินไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ตามพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยไปยื่นหนังสือถึงกกต. ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะซ้อมว่ายน้ำรวมกว่า 9 ครั้ง
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 นายมงคลกิตติ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “กกต.ตอบแล้วไม่สามารถรับบริจาคได้ เสียใจช่วยประชาชนน้ำท่วมไม่ได้ ส.ส.เต้007” พร้อมลงภาพหนังสือจาก กกต. ที่ตอบข้อสอบถามถึงเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ โดยระบุใจความว่า “ตามความประสงค์จะดำเนินกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยานั้น เห็นว่า สามารถดำเนินการได้ โดยต้องพึงระวังมิให้มีการกระทำใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561”
“การดำเนินกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดรับบริจาคเงินในนามของบุคคล องค์กร หรือมูลนิธิอื่นๆ มีลักษณะเป็นการให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด นั้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2563 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้มีการร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้”
อนึ่ง ขณะนี้อยู่ในห้วงระยะเวลาตามมาตตรา 68(1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 หากท่านเป็นผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565
ลงชื่อ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง
ต่อมา นายมงคลกิตติ์ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยเขียนข้อความว่า “เสียใจมากครับ ช่วยประชาชนไม่ได้เท่าที่ควร กกต.วินิจฉัยแล้ว ผิด พรป.สส.2561 ม.73(2) ไม่ให้ทำ”
โดย นายมงคลกิตติ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “เนื่องจากจะครบวาระ 180 วัน ก่อนครบวาระสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 ซึ่งกติกาดังกล่าวทำให้ ส.ส. หรือพรรคการเมือง ไม่สามารถที่จะนำเงินหรือระดมเงิน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ช่วยเหลือแบ่งเบาประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งผมได้กระทุ้งให้รัฐบาลเร่งช่วยประชาชน ทั้งนอกสภาและในสภา”
“อีกอย่างที่ทำให้ผมจำเป็นต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว ในการที่จะระดมเงินบริจาคช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่เพื่อมิให้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะผมมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของกกต. ซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบ”
“ตัวผมเองอยากว่ายน้ำเพื่อระดมเงินบริจาคเหมือนน้องโตโน่ ซึ่งเขาบริจาคให้โรงพยาบาล แต่ผมเสียใจที่เขาไม่ได้บริจาคให้ประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัย ณ ตอนนี้ เพราะเราทราบกันดีว่ารัฐบาลไม่มีเงิน มีเงินน้อย รายรับไม่พอรายจ่าย หนี้สินของประเทศ 10.377 ล้านล้านบาท ผมอยากแบ่งเบาภาระของพี่น้องประชาชนให้ลดน้อยลง”
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นคือไม่สามารถที่จะใช้วิธีนี้ช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะมีสถานะเป็น ส.ส. หรือพรรคการเมือง สรุปคือ “โครงการวันแมน ออน เดอะ เจ้าพระยา ริเวอร์” ไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้งโทษจำคุก ปรับ และตัดสิทธิ์ทางการเมือง
“ผมได้ปรึกษาหารือคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วก็ไม่สามารถทำได้ เราไม่สมควรฝ่าฝืน โครงการดังกล่าวจึงจำเป็นที่จะต้องยุติไป หรือพับไป เพราะผมซ้อมมาอย่างดี เดิมทีพรุ่งนี้ผมกะว่าจะไปซ้อมที่เจ้าพระยา แต่ต้องพับไป เพราะไม่สามารถทำได้ ไม่สามารถรับบริจาคได้”
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น วิธีที่ตนจะช่วยต่อไป ตนจะต้องทำหนังสือถึงนายกฯ โดยตรง และนำรายชื่อประชาชนที่เดือดร้อนในตอนนี้ กี่ครัวเรือน ค่าข้าวค่าน้ำ ค่าเสียหาย จะเสนอไปถึงรัฐบาลให้ยกเลิก คือ 1.โครงการเรือดำน้ำที่จ่ายเงินแล้ว ไม่ได้เรือดำน้ำ แล้วขอเงินคืนจากรัฐบาลจีน แล้วนำเงินดังกล่าวมาช่วยเหลือประชาชน
2.ให้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติเวนคืนงบประมาณในส่วนจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่จำเป็น รวมให้ได้หมื่นกว่าล้านมาช่วยประชาชน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำ รอตนเป็นรัฐบาลจะทำให้ เรียนพี่น้องประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน ตนเสียใจเป็นอย่างมาก