'เต้ มงคลกิตติ์' ปฏิเสธข้อหา ขู่กระทืบทนายเดชา แค่บอกถ้าเป็นเมื่อก่อนโดนแน่

Home » 'เต้ มงคลกิตติ์' ปฏิเสธข้อหา ขู่กระทืบทนายเดชา แค่บอกถ้าเป็นเมื่อก่อนโดนแน่



‘เต้ มงคลกิตติ์’ ปฏิเสธข้อหา ขู่กระทืบทนายเดชา แค่บอกว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน ส่งคนไปทำร้ายแล้ว พร้อมฟ้องกลับหมิ่นประมาท หลายกรรม หลายวาระ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังถูก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา แจ้งเอาผิด จากกรณีโทรศัพท์ไปข่มขู่ว่าจะกระทืบนายเดชา หากไม่หยุดวิจารณ์คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากนายเดชาได้วิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นในคดีของแตงโม จนส่งผลให้ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เกิดความกลัวและเป็นกังวล ส่งผลต่อการทำคดีที่ตนเองเป็นผู้ดูแลอยู่ จึงให้ทนายความไปร้องเรียนที่สภาทนายความ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของนายเดชา

ต่อมาตนยังได้โทรศัพท์ไปหานายเดชาแต่ไม่ได้รับสาย ภายหลังนายเดชาก็โทรศัพท์กลับมาหาตนเอง จึงตักเตือนไปว่าอย่าให้ความเห็นทางกฎหมายในคดีนี้อีก พร้อมกับพูดว่า “ถ้าเป็นคนอื่น หรือเป็นสมัยก่อน ตนเองส่งคนไปกระทืบแล้ว” ไม่ทราบว่านายเดชาได้บันทึกเสียงเอาไว้ แล้วนำมาเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังไปร้องเรียนตนเองที่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรได้ยุติไปเนื่องจากตนเองได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ไปแล้ว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้จึงเหลือข้อพิพาทอยู่ 2 ส่วน คือ เรื่องที่ ป.ป.ช. ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่น่าจะเข้าข่าย เนื่องจาก ป.ป.ช. จะรับเฉพาะในส่วนที่เป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่น่าจะใช่อำนาจในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ส่วนคดีอาญาที่มีการเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน วันนี้ตนจึงมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก

เบื้องตนให้การปฏิเสธ เพราะมั่นใจว่าไม่น่าจะเข้าข่ายความผิด ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 แต่น่าจะเข้าข่าย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตนเองและทีมกฎหมายก็พร้อมสู้คดี

พร้อมกันนี้ตนเองก็ได้ขอดำเนินคดีกับนายเดชาด้วยเช่นกัน ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่มีหลายกรรมหลายวาระ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ หากนายเดชามาขอโทษก็พร้อมที่จะถอนคดี แต่ถ้าไม่ขอโทษก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถึงที่สุดด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ