เต้ มงคลกิตติ์ ลุยหาเสียงเมืองยะลา ตั้งเป้า ส.ส. สามจังหวัดชายแดน 1 ที่นั่ง ชูนโยบายเด็ด ผลิตตุ๊กตายางส่งขายทั้งไทย ต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าช่วยเหลือชาวสวนยาง ลดปัญหาการข่มขืน
24 เม.ย. 66 – นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับที่ 1 พร้อม นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม รองเลขาธิการพรรค และคณะผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตของจังหวัดยะลา ทั้ง 3 เขต
เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู้บ้านคู่เมือง ศาลหลักเมืองจังหวัดยะลา เพื่อความเป็นสิริมงคล นับถอยหลังก่อนการเลือกตั้ง 21 วัน ในวันที่ 14 พ.ค.2566 นี้
จากนั้นนำคณะผู้สมัครพรรคไทยศรีวิไลย์ ขึ้นรถแห่ขยายเสียง ลุยหาเสียง เขตเทศบาลนครยะลา ผ่านถนนสุขยางค์ มุ่งหน้าสู่ตลาดพิมลชัย ผ่านหน้าสถานีรถไฟ และชุมชนย่านตลาดเก่าในเขตเทศบาลนครยะลา พร้อมทั้งชูนโยบายของพรรค เรียกคะแนนเสียง ท่ามกลางการให้ความสนใจของพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลาอย่างล้นหลาม
นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า จากมาการลงพื้นที่หาเสียงมาโดยตลอดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้า ส.ส.แบบแบ่งเขต ในพื้นที่จังหวัดยะลา ส.ส. 1 ที่นั่ง โดยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคมีนโยบายหลักๆ 3 ข้อ คือ 1. การยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินและการถอนกำลังทหารนอกระบบออกให้หมด
จะเห็นได้ว่า กว่า 20 ปี ที่มีการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไม่มีอะไรดีขึ้น ยังเกิดความทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งการเอางบประมาณที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ถือเป็นงบที่มหาศาล ไม่เกิดประโยชน์ สิ่งที่จะดำเนินการคือการเอาบังเกอร์ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดออกให้หมด
หลังจากนั้นกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ยังมีในเรื่องของอิทธิพลของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีการกระทำในสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
อีกนโยบายหนึ่งที่จะดูแลให้พี่น้องชาวมุสลิม ให้ได้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในชีวิตละ 1 ครั้ง ในวงเงินไม่เกิน 150,000 กว่าบาทต่อคน เฉลี่ยปีละ 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรของชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศ ส่วนนโยบายสวัสดิการด้านอื่นๆ บัตรคนจน 3,000 บาท คนชรา 5,000 เงินทหารผ่านศึก 3,000 คนพิการ 3,000 อสม.อปพร. ทางพรรคมั่นใจทำได้
นอกจากนี้ เรื่องของการแก้ไขราคายางพาราในพื้นที่ภาคใต้ ทางพรรคมีนโยบายโดยการแปรรูปยางพารา เพิ่มมูลค่าของราคาให้ดีขึ้น โดยการผลิตตุ๊กตายางขายในประเทศ และต่างประเทศ และต้องทำกฎหมายให้ถูกต้อง เนื่องจากตุ๊กตายางใช้ปริมาณน้ำยางจำนวนมาก ตุ๊กตายางผู้หญิงใช้ปริมาณน้ำยาง 48 กก. ตุ๊กตายางผู้ชายใช้ปริมาณน้ำยาง 75 กก.
เพราะฉะนั้นเมื่อเปรียบเทียบปริมาณผลผลิตยางภายในประเทศ แทนที่จะส่งออกต่างประเทศ นำเข้าสู่การแปรรูปเป็นตุ๊กตายาง จะสามารถเพิ่มราคายางให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้ และจะสามารถดันราคายางพาราได้ถึงกิโลกรัมละ 120 บาท ได้อย่างแน่นอน
