เตือน 3 สิ่งในบ้าน แหล่งเชื้อโรค "กระตุ้น" เซลล์มะเร็งปอด ศัตรูทั้งครอบครัว เช็กแล้วรีบทิ้ง!

Home » เตือน 3 สิ่งในบ้าน แหล่งเชื้อโรค "กระตุ้น" เซลล์มะเร็งปอด ศัตรูทั้งครอบครัว เช็กแล้วรีบทิ้ง!
เตือน 3 สิ่งในบ้าน แหล่งเชื้อโรค "กระตุ้น" เซลล์มะเร็งปอด ศัตรูทั้งครอบครัว เช็กแล้วรีบทิ้ง!

รู้หรือไม่ ในบ้านมี 3 สิ่งที่เป็นแหล่งกำเนิด “กระตุ้น” เซลล์มะเร็งปอด อย่าประหยัดเก็บเอาไว้ แต่เช็กแล้วควรรีบทิ้งทันที!

มะเร็งปอด เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง และมีการคาดการณ์ที่ต่ำ โดยมักจะถูกตรวจพบในระยะที่โรคลุกลามแล้ว และสาเหตุอาจเริ่มต้นจากสิ่งของเล็กๆ ในบ้านของคุณเอง แม้ว่าคุณจะทำความสะอาดบ้านจนเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาการหายใจหรือโรคทางเดินหายใจอาจยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณได้

เป็นไปได้ว่าคุณกำลังสะสมสิ่งของเหล่านี้ในบ้าน ซึ่งแม้ว่าจะดูสะอาดและไม่เป็นอันตราย แต่จริงๆ แล้วอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ

น้ำมันถั่วลิสงที่เก็บไว้นาน

การใช้น้ำมันถั่วลิสงในการปรุงอาหารนั้นดีต่อสุขภาพ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หลายคนจึงใช้มันในระยะเวลานาน โดยไม่คำนึงถึงวันหมดอายุ แม้ว่าน้ำมันถั่วลิสงจะมีจุดเดือดสูง 225 องศาเซลเซียส แต่น้ำมันนี้จะเสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อถูกออกซิไดซ์

เมื่อน้ำมันเสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดสารอันตรายเช่น aflatoxin ที่เป็นสารก่อมะเร็งประเภท 1 ตามการจัดอันดับขององค์การอนามัยโลก ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งตับ และมะเร็งปอด ยิ่งไปกว่านั้น หากน้ำมันถูกบีบจากเมล็ดที่มีราขึ้น การใช้จะยิ่งเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากขึ้น

น้ำมันถั่วลิสงสามารถเก็บได้นานแค่ไหน? น้ำมันถั่วลิสงมีอายุการใช้งานสั้นเมื่อเทียบกับชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมันถั่วลิสงบริสุทธิ์ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน หากเก็บในขวดแก้วและอุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ถ้าพบว่าน้ำมันมีกลิ่นเหม็นหรือไม่หอม ควรทิ้งไป

พรมเก่าภายในบ้าน

พรมสามารถช่วยตกแต่งบ้านได้ดี แต่หากพรมเก่าเกินไป แม้จะทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ยากที่จะกำจัดฝุ่นหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น เห็บ ฝุ่น มูลสัตว์ หรือแม้แต่เชื้อรา โดยเฉพาะพรมที่สัมผัสน้ำบ่อยๆ เช่น พรมในห้องน้ำ หรือห้องครัว สิ่งเหล่านี้อาจเข้าสู่ปอดและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง สะสมไปเรื่อยๆ จนทำให้เกิดการพัฒนาเซลล์มะเร็งปอด หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ

ควรเปลี่ยนพรมบ่อยแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับความสะอาดและสภาพของพรม หากพรมไม่อ่อนนุ่มอีกต่อไป สีเริ่มจาง หรือมีกลิ่นเหม็น แม้จะทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ถึงเวลาควรเปลี่ยนพรมใหม่ และสำหรับพรมขนาดใหญ่ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแผ่นลอกฝุ่นทำความสะอาดทุกวัน

หมอนเก่าที่ใช้มาหลายปี

การนอนหลับเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลามากที่สุดในชีวิตของเรา โดยเฉลี่ยแล้วเรานอนหลับประมาณ 24 ปี 4 เดือน อย่างไรก็ดี หมอนที่เราใช้ทุกวันจริงๆ แล้วเป็นที่สะสมของฝุ่น เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสามารถกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียหรือแมลงต่างๆ ได้ เช่น เหา น้ำลาย หรือน้ำมูก แม้ว่าเราจะมองไม่เห็น แต่ขณะนอนหลับอาจหายใจเอาเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ปอด ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง การอักเสบของรูขุมขนบนหนังศีรษะ หรือสิว

ตามรายงานของ ETToday หมอนหนึ่งใบอาจมีแบคทีเรียถึง 3 ล้านตัว ซึ่งมากกว่าห้องน้ำถึง 17,000 เท่า ถ้าไม่ได้ทำความสะอาดหลังจาก 1 สัปดาห์ หรืออาจมีถึง 8.51 ล้านตัว ถ้าไม่ทำความสะอาดหลังจาก 3 สัปดาห์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แม้จะซักปลอกหมอนบ่อยๆ หรือผึ่งหมอนให้แห้ง แต่หมอนที่เก่าหรือเปื้อนคราบเหลือง ก็ควรเปลี่ยนใหม่

ควรเปลี่ยนหมอนบ่อยแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับประเภทของหมอน โดยทั่วไปควรเปลี่ยนหมอนทุก 6-36 เดือน และสำหรับหมอนที่ใช้วัสดุเทียม เช่น หมอนใยสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน นอกจากนี้ควรซักหมอนทุก 3 เดือน และซักปลอกหมอนทุก 1-2 สัปดาห์

สัญญาณของมะเร็งปอดที่พบบ่อย

อาการที่พบบ่อยของมะเร็งปอดได้แก่ ไอเรื้อรังตอนเช้า เสียงแหบ น้ำมูกที่มีเลือด หรือไอเป็นเสมหะหนาๆ ที่มีอาการหายใจลำบาก และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาการของมะเร็งปอด ดังนั้น หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล หรือคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยยืนยันว่าใช่โรคมะเร็งปอดหรือไม่ และเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ