กรมควบคุมโรค เตือน “ไข้เลือดออก” ระบาดมากขึ้น พบป่วยแล้ว 1.6 หมื่นราย เสียชีวิต 14 ราย มากกว่าปีที่แล้ว 2.2 เท่า เผย 5 จังหวัดป่วยสูงสุด
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 10 สิงหาคม 65 พบผู้ป่วยแล้ว 16,276 ราย เสียชีวิต 14 ราย กลุ่มอายุที่เสียชีวิต อายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านในช่วงเวลาเดียวกันถึง 2.2 เท่า
โดยช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับแรก คือจ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี จ.ตาก และจ.ศรีสะเกษ และคาดการณ์ว่าปีนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกจะระบาดมากขึ้นตามวงรอบของปีที่จะระบาด โดยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยในกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
สำหรับลักษณะอาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน และสูงลอย 2-7 วัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร ส่วนใหญ่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ต่อมาไข้จะลดลง ในระยะนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้
ขอให้สังเกตอาการป่วยของคนในครอบครัว หากไข้สูงลอยเกิน 2 วัน เช็ดตัวหรือกินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ให้คิดว่าอาจป่วยไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยาลดไข้กลุ่มแอสไพรินและไอบูโพรเฟนมารับประทาน ให้รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อวินิจฉัย ประเมินอาการ และดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ปัจจุบันมีการใช้ชุดตรวจโรคไข้เลือดออกชนิดรวดเร็ว (Dengue Rapid Diagnosis Test) ทำให้สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้เร็วมากขึ้น ควรทายากันยุง นอนในมุ้ง เพื่อป้องกันยุงกัด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายรอบบ้าน ใช้ทรายกำจัดลูกน้ำบริเวณน้ำขัง หรือทำลายภาชนะที่มีน้ำขัง ไม่สร้างแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเพิ่มขึ้น