กรมควบคุมโรค เตือน ดื่มน้ำเมามาก กดการทำงานสมอง ทำซึม น็อก กดการหายใจได้ หลัง ‘จ๊ะ อาร์สยาม’ เมาร่วงกลางเวที ย้ำ ไม่มีระดับการดื่มที่ปลอดภัย

จากกรณี น.ส.นงผณี มหาดไทย หรือ จ๊ะ อาร์สยาม นักร้องสาวชื่อดัง ไปร่วมแสดงคอนเสิร์ตที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แล้วดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรพิเศษชื่อ “แสงสว่าง” และ “แสงสุดท้าย” จนทำให้หมดสติขณะกำลังร้องเพลง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : แสงสุดท้าย! ‘จ๊ะ’ สร้างอีกตำนาน เจอไปถึงร่วง แดนเซอร์หามลงจากเวที (คลิป)

วันที่ 20 มิ.ย.2565 นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีข่าวดังกล่าว ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีจำนวนมาก หากดื่มน้อย ๆ ก็จะไปกระตุ้นพฤติกรรม กระบวนการคิด คึกคะนอง ให้เกิดความสนุกสนาน แต่หากดื่มมาก ดื่มนาน ๆ ไปจะเกิดการกดการทำงานของสมอง ซึม น็อก กดการหายใจ ควบคุมหรือระงับสติอารมณ์ไม่ได้ เป็นต้น

กรมควบคุมโรค เตือน ดื่มน้ำเมามาก กดการทำงานสมอง ทำซึม น็อก กดการหายใจได้ หลัง ‘จ๊ะ อาร์สยาม’ เมาร่วงกลางเวที

นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การดื่มมากหรือดื่มน้อยในแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนดื่มเพียงเล็กน้อยก็ออกฤทธิ์มาก บางคนดื่มมากก็อาจจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ทั้งหมดนั้นตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกก็ไม่มีปริมาณที่ปลอดภัย การดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น อ่านข่าว : สั้นๆแต่มีจุก! จ๊ะ โดนถามทำไมต้องเมา หลังร่วงกลางเวที เจอถามกลับรับไม่ได้เฉย

นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะยาว ที่รู้จักกันดีคือ ทำให้เกิดภาวะตับแข็ง มะเร็งตับตามมาได้ แต่กว่าจะเห็นอาจจะใช้เวลากว่า 30-40 ปี แต่ปัจจุบันเริ่มมีการศึกษา และมีข้อมูลมากขึ้นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการทำงานของเมตาบอลิซึม ทำให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันมากขึ้น ซึ่งคนจะไม่ค่อยทราบผลกระทบตรงนี้เท่าไร

นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า แต่ตอนนี้เราพบมากขึ้น และพบได้เร็วกว่าการเป็นตับแข็งและมะเร็งตับ โดยเริ่มพบเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยประมาณ 30 ปีปลาย ๆ และ 40 ปีต้น ๆ ซึ่งสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

“ผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอีกมาก ทั้งผลกระทบเรื่องสุขภาพของตัวเอง ยังมีเศรษฐกิจของครอบครัว เกิดความรุนแรงในครอบครัว สังคม ปัญหาการข่มขืน ปล้น ฆ่า ซึ่งมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้น ปัญหาเมาแล้วขับ ต้องมีคนเสียชีวิต พิการ ครอบครัวสูญเสีย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้” นพ.ขจรศักดิ์ กล่าว