เจ้าของร้านเบเกอรี่ เตือนภัย มิจฉาชีพ หลอกเก็บเงินค่าขยะ 3 เดือน 350 บาท เผยพิรุธหลังเจอถามกลับ พร้อมขอหลักฐาน ก่อนปั่นจักรยานหนีไปเลย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 เม.ย.2566 นางสุภาภรณ์ ศรีอ่อนคง เจ้าของร้านเบเกอรี่ เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังโดนมิจฉาชีพปลอมตัวมาเก็บค่าขยะที่ร้านขายเบเกอรี่ แต่รู้ทันขอดูบิลค่าเก็บขยะ ก่อนเจ้าตัวชิ่งหนีทำทีว่าจะกลับไปเอาบิล ว่า ตนเปิดร้านเบเกอรี่อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่วันเกิดเหตุตนไม่ได้เข้าร้าน น้องพนักงานที่ร้านโทรมาบอกว่ามีเจ้าหน้าที่มาเรียกเก็บค่าขยะ 3 เดือน 350 บาท ซึ่งตนคิดว่าแพงเกินไป จึงให้พนักงานสอบถามว่าของเดือนไหนบ้าง และมีบิลของ กทม.ไหม

เจ้าของร้านเบเกอรี่ เตือนภัย มิจฉาชีพ หลอกเก็บเงินค่าขยะ 3 เดือน 350 บาท เผยพิรุธหลังเจอถามกลับ

นางสุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะนั้นก็ให้พนักงานยืนยันไปว่า ต้องเอาบิลของกทม.มาเท่านั้นถึงจะยอมจ่าย แต่กลับมีท่าทีพิรุธ ตอบไม่ได้ แล้วบอกจะกลับไปเอาบิลมาให้ก่อนจะเดินออกจากร้านไป ซึ่งโดยปกติค่าขยะของกทม.จะมาเก็บทุก ๆ 3 เดือน 60 บาท เฉลี่ยเดือนเดือนละ 20 บาท ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ตนเอะใจว่าทำไมจู่ ๆ มาเก็บ 3 เดือน 350 บาท และเป็นบิลเงินสดด้วย โดยปกติถ้าเป็นบิลของ กทม. จะต้องเป็นบิลที่ฉีกมาจากเล่ม มีตรา กทม.ชัดเจน ลงรายละเอียดชัดเจน ค่าขยะกี่เดือน จำนวนเท่าไหร่

นางสุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ถ้าตอนนั้นตนอยู่หน้าร้าน ตนเห็นการแต่งกายก็คงจะให้ออกจากร้านไปเลย ซึ่งเห็นชัดว่าไม่ใช่แน่ ๆ ชุดที่ใส่มาคล้ายว่าเป็นชุดนอนขาสั้น แต่ไม่ใช่ชุดนอน และวันนั้นชายคนดังกล่าวใส่หน้ากากเข้ามาด้วย เสียงที่พูดออกมาคล้ายว่าจะมีปัญหาเรื่องสรีระใบหน้า พูดไม่ชัด และเดินไม่ค่อยตรง ซึ่งไม่น่าเชื่อถือ หลังจากนั้นได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่า ชายคนดังกล่าวปั่นจักรยานมาแล้วก็ปั่นจักรยานกลับตามคลิป และตนไม่ได้ไปดำเนินคดีต่อ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน

นางสุภาภรณ์ กล่าวว่า เดิมทีที่ร้านเคยมีเหตุการณ์เสียค่าขยะแพงมาก่อน เดือนละ 500-600 บาท แต่เมื่อก่อนร้านมีขยะค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นโรงงานผลิตเบเกอรี่ ตนเลยไม่ได้คิดอะไร พอมาพักหลังร้านย้ายสถานที่ผลิต ขยะก็เลยลดลงเหลือไม่มาก เเต่ช่วงที่เกิดเหตุเคยโทรไปหาผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความสะอาดของเขตเกี่ยวกับเรื่องค่าขยะว่าเกณฑ์การเก็บเป็นเเบบไหน ทำไมถึงจ่ายแพงไม่เท่ากันแต่ละเดือน

นางสุภาภรณ์ กล่าวด้วยว่า แล้วหลังจากนั้นก็จ่ายในราคาปกติมาตลอด 3 ปีจนมีเหตุการณ์นี้ ทำให้ตอนแรกคิด 2 กรณี ว่าเป็นกลุ่มเดิมหรือไม่ ที่เคยมาเรียกเก็บแพง ๆ แต่พอถามถึงเรื่องใบเสร็จแล้วไม่มีก็มั่นใจเลยว่าเป็นมิจฉาชีพ

“อยากจะเตือนทุกคนนะคะ ว่าเวลาจะจ่ายอะไรไป ถ้าอ้างว่ามาจากไหน ต้องขอบิลถึงต้นสังกัด เพราะว่าเราเคยโดนมาแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็เลยอยากเตือนภัยว่าอย่าเชื่อ ถึงจะแต่งตัวดีกว่านี้ ถึงจะขับรถดี ๆ มา แต่ค่าบริการมันไม่ใช่แล้วบิลต้องเป็นบิลหัวของบริษัทนั้นจริง ๆ” นางสุภาภรณ์ กล่าว