เตือนภัย แก๊งตกทองอาละวาดอีกแล้ว ยายเล่าละเอียดโดนตุ๋นจนเปื่อย หลอกทำพิธีขอเลขเด็ดในวัดเกจิชื่อดัง จ.อุดรธานี สุดท้ายสูญสร้อยทอง 1 บาท

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดพระแท่น ม.1 ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นางใหม่ บุญภา อายุ 75 ปี ว่าถูกแก๊งตกทองหลอกทำพิธีขอเลขเด็ดเพื่อนำไปซื้อหวย จำนวน 2 คน เป็นชายอายุประมาณ 70 ปี และหญิงอายุ 40-50 ปี แต่งกายดีขับรถกระบะแบบโอเพ่นแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์-เงิน จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และด้านหน้ารถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน สูญสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 32,800 บาท จำนวน 1 เส้น

โดยกล้องวงจรปิดในวัดพระแท่น สามารถบันทึกภาพแก๊งคนร้ายขับรถกระบะ พาคุณยายใหม่จากบ้านพักมาทำพิธีขอหวยอยู่ภายในรถ ที่จอดอยู่ลานด้านหน้ารูปเหมือนหลวงปู่พิบูลย์ยืนถือไม้เท้า และเป็นสุดยอดพระมหาเถราจารย์ในตำนานของ จ.อุดรธานี ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร โดยจอดรถทำพิธีขอเลขเด็ดภายในรถประมาณ 8 นาที ตั้งแต่เวลา 10.17-10.25 น. วันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยไม่มีใครออกมาจากรถ คาดว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี และรู้ว่าบริเวณวัดมีกล้องวงจรปิด ก่อนคนร้ายจะขับรถพาคุณยายใหม่ออกไปจากวัด เพื่อใช้กลอุบายหลอกลวงพาซื้อหวยหลังจากได้เลขเด็ด

เมื่อไปถึงวัดพระแท่น คุณยายใหม่ ได้นำผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่คนร้ายจอดรถทำพิธี ก่อนเดินขึ้นไปจุดธูปเทียนกราบไหว้รูปเหมือนหลวงปู่พิบูลย์ เพื่ออธิฐานขอให้ท่านแสดงปาฏิหาริย์ดลบันดาลให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว หลังจากไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.พิบูลย์รักษ์ ตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่ายหลังเกิดเหตุ ซึ่งหลังหวยออกทุกงวด คุณยายใหม่ ก็นำดอกไม้และเงินมาถวายหลังจากมีโชค เพราะเป็นคนชอบเสี่ยงโชค แต่ครั้งนี้มากราบอธิฐานขอให้หลวงปู่ฯ ช่วยตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะไม่ได้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก พร้อมกับออกทีวีเตือนภัย เพื่อให้คนแก่คนเฒ่าและลูกหลาน ระวังแก๊งมิจฉาชีพพวกนี้ และขอให้พวกมันมีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน ที่กล้ามาทำไม่ดีต่อหน้าหลวงปู่ฯ และให้ถูกตำรวจจับมาโรงพักดำเนินคดี เพราะอยากเห็นหน้ามันอีกครั้งตอนโดนจับ

คุณยายใหม่ เล่าว่า เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.66) เวลาประมาณ 10.00 น. มีคนร้ายผู้ชายอายุประมาณ 70 ปี และผู้หญิงอายุประมาณ 40-50 ปี ขับรถกระบะสีบรอนซ์-เงิน มาจอดหน้าบ้าน ขณะที่ตนกำลังเก็บกากข้าวสารอยู่หน้าบ้าน คนร้ายได้เดินลงมาให้ตนช่วยพาไปแก้บน หลังถูกหวยมา 2 งวดติดต่อกัน ได้เงินมาคนละหลักล้านบาท ก่อนจะให้ตนพาไปหาดอกไม้ธูปเทียนจำนวน 5 คู่ ใส่จานที่บ้านของตน พาไปแก้บนกับหลวงปู่พิบูลย์ที่วัดพระแท่น ที่อยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 500 เมตร เมื่อขึ้นไปบนรถคนร้ายให้ตนนั่งหน้ากับคนขับที่เป็นผู้ชาย ก็เห็นเงินแบงก์พันบาทวางอยู่ในรถเป็นมัดๆ หลายแสนบาท ไม่รู้ว่าเป็นเงินจริงหรือปลอม เพราะยายสายตาไม่ค่อยดี คนร้ายที่เป็นผู้หญิงที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ได้นำบัญชีธนาคารมาให้ดูจำนวน 2 เล่ม พบว่ามีเงินหลักล้านบาทเศษทั้ง 2 เล่ม และบอกว่าถูกหวยเพราะหลวงปู่ฯ ท่านให้โชค จึงพากันมาแก้บนพร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้

“ตนเห็นก็อยากได้อยากมีโชคเหมือนกับเขาบ้าง พอคนร้ายขับรถพามาจอดที่ลานหน้าองค์หลวงปู่ฯ ได้บอกว่ายังไม่ต้องไปแก้บนก็ได้ แต่จะพาทำพิธีขูดขอเลขเด็ดไปแทงหวยภายในรถก่อน โดยนำเหรียญบาท ร.5 ที่มีรูปช้าง 3 เศียร ออกมาใช้กระดาษทิชชู่มาขูดและถู และนำแป้งมาโรย สลับกันทั้งคนรายที่เป็นผู้ชายและผู้หญิง ทำอย่างนั้นอยู่หลายนาที ก่อนที่คนร้ายผู้หญิงจะบอกว่าเห็นเลขแล้ว พร้อมกับยื่นให้ตนดู ตนก็เห็นเป็นเลข 39 สีแดงลอยขึ้นมาอยู่บนเหรียญ ทำให้ตนหลงเชื่อ ก่อนที่คนร้ายจะพาไปซื้อหวยที่บ้านไผ่ บ้านหนาด ต.นาบัว อ.เพ็ญ ที่อยู่ห่างไปประมาณ 7-8 กม. เจ้ามือเขาไม่กันและอั้นเลข”

คุณยายใหม่ เล่าต่อว่า เมื่อไปถึงตนก็เอะใจ เพราะตามหมู่บ้านไม่มีเจ้ามือหวยอย่างที่คนร้ายกล่าวอ้าง แต่เพราะความอยากได้อยากมีโชคกับเขา จากนั้นคนร้ายที่เป็นผู้หญิงได้หยิบเงินที่นำมาโชว์ เดินลงจากรถวิ่งไปซื้อหวยในซอย โดยไม่พาตนและคนขับไปด้วย สักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับบิลหวยของเขาและของตนที่ ระบุชื่อของตนที่เป็นคนซื้อเลข 39 จำนวน 3,000 ตัว เป็นเงิน 36,000 บาท หากถูกจะได้เงินตัวละ 1,000 บาท รวมเป็นเงินที่ถูกหวย จำนวน 3 ล้านบาท และส่งให้ตนเก็บไว้ โดยขอเก็บสร้อยทองของตนไว้กับหญิงคนร้ายเป็นประกัน เนื่องจากราคาทองไม่พอกับค่าซื้อหวย หากถูกก็จะนำเงินมาให้ที่บ้าน และหักส่วนที่ตนค้าง 4 พันบาท

“เมื่อคนร้ายขับรถพาตนมาส่งที่บ้าน สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าคงโดนหลอกหรือโดนต้มจนเปื่อยอย่างแน่นอน และได้ไปบอกหลานสาวพาไปแจ้งความที่โรงพัก ตำรวจได้บอกว่าตนโดนแก๊งตกทองหลอกลวงเข้าแล้ว พร้อมกับถามว่าหากยายถูกหวยจริงๆแล้วยายจะไปขึ้นเงินกับใคร ทำให้ตนรู้สึกโมโห เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยโดนคนหลอกอย่างนี้ ไม่โทษใครมันเป็นเพราะความโลภที่ตนอยากได้เงิน 3 ล้าน หลานสาวคนที่ซื้อทองให้เมื่อ 2 ปีก่อน ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรให้ช้ำใจ ก่อนให้หลานสาวร้องเรียนให้สื่อมวลชนมาทำข่าวเพื่อเตือนภัยถึงวิธีการต้มตุ๋นกับตนในครั้งนี้”