รู้ก่อนกิน! หมอเตือน “ต้มเลือดหมู” อร่อยและมีประโยชน์ แต่ถือเป็น “อาหารต้องห้าม”สำหรับคนกลุ่มนี้
ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว SOHA แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมการแพทย์แผนตะวันออกฮานอย ประเทศเวียดนาม ระบุว่า เลือดหมูเป็นอาหารราคาถูก อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ คนส่วนใหญ่เชื่อกินแล้วทำให้เย็น ช่วยทำความสะอาดปอด ล้างสารพิษ ส่งผลดีต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเลือดหมูจะดีต่อสุขภาพ แต่ผู้ที่มีภาวะไขมันผิดปกติ ไขมันเกาะตับ โรคตับแข็ง โรคอ้วน หรือภาวะเม็ดเลือดแดงแตกแต่กำเนิด “ไม่ควรรับประทาน” เช่นเดียวกับผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือด เบาหวาน โรคเกาต์ ความดันโลหิตไม่คงที่ และโรคเกี่ยวกับลำไส้ ก็ควรจำกัดการทานอาหารจานนี้เช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เลือดหมู 100 กรัม มีโปรตีน 16 กรัม ซึ่งมากกว่าเนื้อหมูถึง 4 เท่า อีกทั้งสารคัดหลั่งยังอุดมไปด้วยเลซิติน เหล็ก โพแทสเซียม ทองแดง และธาตุอื่นๆ ซึ่งมีผลในการบำรุงเลือดและเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เลือดหมูก็มีระดับคอเลสเตอรอลที่สูงมากเช่นเดียวกับเครื่องในสัตว์อื่นๆ ดังนั้นควรรับประทานเพียงหนึ่งมื้อต่อสัปดาห์
การกินเลือดหมูจึงช่วยเสริมธาตุเหล็กตามธรรมชาติ ป้องกันการขาดธาตุเหล็กในเลือด โรคหัวใจและหลอดเลือด และลิ่มเลือดอุดตันในผู้สูงอายุ เด็ก และสตรี ปริมาณวิตามินเคสูง ส่งเสริมการแข็งตัวของเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีที่จำเป็น
เลือดหมูยังช่วยป้องกันการสูญเสียความจำด้วย เนื่องจากปริมาณฟอสโฟไลปิดจะช่วยเพิ่มปริมาณอะเซทิลโคลีน ซึ่งเปรียบเสมือนกาวที่เชื่อมเซลล์ประสาท จึงช่วยเพิ่มความจำและลดอาการหลงลืม ดังนั้น ผู้สูงอายุที่มีอาการขี้หลงลืมสามารถรับประทานอาหารที่มีเลือดได้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้เลือดหมูจะมีข้อดีต่อสุขภาพ แต่มักถูกโยนทิ้งจากลิสต์เมนูอาหาร เพราะไม่ใช่ทุกคนในครอบครัวจะชอบกินเลือด โดยเฉพาะแม่บ้านหลายคนกลัวเลือด หรือขั้นตอนที่ซับซ้อนในการปรุง จึงไม่เลือกใช้เป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้เลือดหมูยังปนเปื้อนได้ง่ายในระหว่างกระบวนการฆ่าอีกด้วย
- ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัว! เตือนคน 7 กลุ่ม ไม่ควรกิน “แตงโม” อร่อยสดชื่น แต่เสี่ยงอันตราย
- จดและจำ! อาหาร 3 อย่าง ที่ไม่ควรกินพร้อม “กล้วย” กลายเป็นโทษมากกว่าประโยชน์