หนุ่มเล่าประสบการณ์ช็อก แวะต่อเครื่องไต้หวันแค่วันเดียว เจอเหตุการณ์ต้องจำไม่ลืม หลังเจอบุกยึดห้องต่อหน้าต่อตา กลายเป็นประสบการณ์ช็อกที่นำมาเตือนใครหลายคน
เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการแชร์จากสมาชิกเฟซบุ๊ก Krittanon Micky Bear ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์หลังจากที่เดินทางแวะต่อเครื่องที่ไต้หวัน โดยมีทริปแวะเข้าไปพักในเมือง 1 คืนเพื่อรอบินต่อ หลังจากที่เครื่องดีเลย์ทำให้เดินทางไปถึงช้ากว่ากำหนด ด้วยความเหนื่อยจึงตรงเข้าที่พัก
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มจาก เขาเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมดูปกติ และเดินมาขึ้นลิฟต์ด้วยกัน พยายามพูดจีนด้วยแม้ว่า เขาจะปฏิเสธว่า ไม่สามารถพูดจีนได้ จากนั้นเธอได้ออกมาชั้นเดียวกัน ซึ่งเขาคิดว่าปกติ คงเป็นลูกค้าที่พักชั้นเดียวกันเท่านั้น
โพสต์ระบุว่า “พอเราเดินไปที่ห้องหมุนประตูเปิด ปรากฏว่านางมายืนอยู่ข้างหลังเรา พยายามพูดเหมือนขอความช่วยเหลือ เราเลยพยายามคุยด้วยกันกับนาง แต่อังกฤษของนางฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยว่าจะเข้าห้องไปเก็บของก่อน แต่นางก็ดึงแขนเราไว้ บอกว่า No No No
แล้วนางก็ชี้มาที่กระเป๋าผ้าเราที่เราเอาเสื้อผ้าสำหรับคืนนี้ใส่ไว้ พูดไปทำท่าไป เราก็พยายามเอา Google แปลภาษานางแล้วแต่ก็เหมือนจะไม่ช่วย
นางทำท่าสักพักเหมือนจะทำอะไรให้ดูเราเลยลองยื่นกระเป๋าผ้าให้นางดูเพื่อนางจะทำท่าให้ดูจะได้คุยกันรู้เรื่องๆ อยู่นางบอก นาง want this bag นางไม่ให้คืน ก็เลยยืนเถียงกับนางว่าทำไม กระเป๋าเรานะ นางจะเอาไปทำไม สุดท้ายเหมือนนางหมดความอดทน นางพุ่งเข้าห้อง ผลักเราออก แล้วกระแทกประตูใส่หน้า ที่สำคัญ นางเอาถุงผ้าเราไปด้วย (กางเกงในฉานน~~)
ไอ้เราก็ยืนงง wtf just happen อยู่แปปนึง เพราะ กุญแจห้องยังเสียบอยู่ข้างนอกเลย นางเข้าไปยังไงก็ไขได้อยู่ดี แต่เนื่องจากไม่อยากคุยด้วยละ เลยลงไปหา reception แล้วเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง Reception บอกว่าอัาวไม่รู้จักกันหรอ เลยบอกไปว่า ฉันมา first time จะไปรู้ได้ไง reception ส่ายหัวทำหน้าแบบ ชิบหายแล้ว Haiya
เดาว่านางน่าจะนั่งในlobby รอเหยื่อ แล้วบอก reception ว่ารอคนอยู่ Reception เลยขึ้นไปเรียกให้ พูดจีนใส่กัน พยายามไขกุญแจเข้าไปแต่ติดโซ่ เราเลยส่งสัญญาณมือให้พี่เค้าโทรหาตำรวจ บอกว่า police police พี่แกก็พยักหน้าแล้วเดินกลับลงเรียกตำรวจ”
เหตุการณ์จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเจรจาและสุดท้ายต้องบุกห้องเข้าไป ซึ่งทางโรงแรมชี้ว่าไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งกลายเป็นอุทาหรณ์ให้นักเดินทางต้องระมัดระวังตนเอง โชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีอันตรายหรือใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด