ตำรวจขอนแก่น เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับ 2 ลูกน้องแก๊งนายทุนเงินกู้โหด ใช้หินปากระจกบ้านลูกหนี้ หลังทวงเงินไม่สำเร็จ
จากกรณีเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่นและชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง จับกุมตัว นายณัฐวุธ หรือมอส สุขสม อายุ 29 ปี นายเสกสิทธิ์ หรือหนึ่ง พุทธรักษา อายุ 41 ปี ภายหลังจากบุกมามาทวงถามเอาเงินที่บ้านลูกหนี้ แล้วทุบ ทำลายบ้าน จนกระจกแตก 4 บาน ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 15 ก.พ. 65 พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน นายณัฐวุธ และนายเสกสิทธิ์ เพิ่มเติมแล้ว ทราบว่า คนที่ก่อเหตุทำลายบ้านลูกหนี้ในคืนวันที่ 13 ก.พ.นั้น มี 3 คน คือนายมอส นายพาน และนายเวฟ แต่จับได้เพียง นายณัฐวุธซึ่งเป็นคนขับรถ ส่วนนายพานและนายเวฟนั้น ทราบชื่อจริงและที่อยู่หมดแล้ว พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับจากศาลจังหวัดขอนแก่น จับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน คือ
“ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์, ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด,ทวงถามหนี้โดยใช้ความรุนแรง (พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 11),ประกอบสินเชื่อธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้ผู้อื่นตกใจหรือกลัวโดยการขู่เข็ญ
ขณะนี้อยู่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนเตรียมส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัวซึ่งผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องต่อศาลในการประกันตัวได้ตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยศาลจะเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามอยากจะฝากถึงประชาชนกรณีดังกล่าว ให้คิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำการกู้ยืมเงินกู้นอกระบบ เพราะไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี และไม่มีอะไรที่จะไม่มีค่าตอบแทน
เมื่อพลาดไปแล้วก็จะมีปัญหาอื่นตามมามากมาย จึงขอให้คิดอย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว ส่วนการกวาดล้างจับกุม กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบนั้น ขอยืนยันว่าถ้ามีข้อมูลและหลักฐานจะจับกุมตัวมาดำนินคดีตามกฎหมายทุกราย
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยืนยันว่าไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าว โดย นายหนึ่งเป็นนายทุนเงิน ไม่มีบริษัทไม่ได้จดทะเบียน ตั้งชื่อขึ้นมาและเดินแจกนามบัตร ไม่มีการโปรย ส่วนมอสเป็นคนขับในวันนั้น แต่อีก 2 ที่ไปด้วยคือ นายพาน และ นายเวฟ ก็ไม่ทราบว่าทำอะไรกัน ส่วนลูกหนี้รายนี้กู้ไป 5,000 บาท ส่งดอกได้แค่ 3-4 วัน ก็เงียบหายไปพร้อมทั้งบล็อกเบอร์ ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอตัวสักครั้ง และไม่เคยมีพฤติกรรมข่มขู่
วันล่าสุดก่อนมามอบตัวเจอเพียงลูกชาย ซึ่งลูกชายพาไปหาที่ไร่ แต่ก็ไม่ได้เจอเจอแต่สามีของลูกหนี้ และได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเงิน 5,000 บาทที่กู้ไป จึงขอแค่จ่ายดอกให้วันละ 100 บาท ก็พอ แต่ทางสามีลูกหนี้บอกว่าวันนี้ยังไม่มี จะขอเคลียร์ให้พรุ่งนี้ ตนก็เดินทางกลับ กระทั่งลูกหนี้รายนี้โทรศัพท์มาหา บอกจะไปกดเงินมาให้ซึ่งตนเองก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอมาถึงก็ไม่พบตัวลูกหนี้เช่นเดิม
จึงเฝ้าอยู่ในรถส่วนลูกน้องลงไปดูที่บ้าน แต่ก็ไม่ทราบว่าทำอะไร แต่ตนเองไม่ได้ทำอะไร กระทั่งรู้ว่ามีการแจ้งความจึงเข้ามามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และลูกหนี้รายนี้ตนเพิ่งมาทราบประวัติหลังจากเป็นเรื่องว่าไปกู้หลายเจ้าเป็นสิบ ๆ เจ้า และมีพฤติกรรมตั้งใจจะโกงโดยการสร้างเรื่องราวให้มีเรื่องกับนายทุนแต่ละคนแล้วไปแจ้งความ เพื่อตนเองจะไม่ต้องจ่ายเงิน
ซึ่งถ้าตนรู้ว่ามีประวัติแบบนี้ก็คงไม่ให้กู้ แต่ด้วยจำนวนเงินที่ไม่มากจ่ายดอกเบี้ยเพียงวันละ 100 บาท จึงให้ไปโดยไม่ตรวจสอบประวัติ ยอมรับว่าเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนดแต่ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่หรือมีพฤติกรรมโหดร้ายตามที่เป็นข่าว แต่ตนไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไรได้ ก็ขอว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย