เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบนครบาลได้ติดตามจับกุม นายอำนวย อายุ 60 ปี หลังได้รับแจ้งเหตุจากคุณหมอ ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ขอความช่วยเหลือว่าถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดมาตั้งแต่เด็ก อายุ 6 ขวบ พยายามบอกแม่แท้ๆ มาตลอด แต่แม่ก็ไม่เชื่อ

น้องเอเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าเรื่องราวนี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 2560 ในขณะนั้นเธออายุเพียง 6 ขวบ และได้พักอาศัยอยู่กับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยง ที่ จ.ตาก พ่อเลี้ยงได้เริ่มล่วงเกินน้อง โดยอาศัยจังหวะที่แม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งพ่อเลี้ยงทำเช่นนี้เป็นประจำ และจะข่มขู่ว่าหากนำไปบอกใครจะฆ่าแม่ของน้องทิ้ง ทำให้น้องถูกย่ำยีเรื่อยมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาถึง 6 ปี กระทั่งน้องย้ายเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ น้องก็ยังถูกกระทำเช่นนี้ซ้ำๆ เช่นเดิม ซึ่งหลายครั้งน้องพยายามที่จะบอกให้แม่ทราบ แต่ก็ต้องเสียใจยิ่งกว่าเดิมเพราะแม่ไม่เชื่อน้องเลย กลับเข้าข้างพ่อเลี้ยงมากกว่า

จนกระทั่งช่วงเดือน พ.ค. 66 หลังจากน้องถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนจนป่วยร่างกายอ่อนแอ และเป็นไข้เลือดออก แล้วเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล น้องได้พบกับหมอที่ใจดีและรับฟังอาการป่วยของน้องอย่างตั้งใจ น้องจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกกระทำให้กับหมอทราบ หลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด

หมอผู้น่ายกย่องรายนี้ จึงดำเนินการประสานงานนักสังคมสงเคราะห์ทันที ก่อนตรวจร่างกายน้องอย่างละเอียดแล้วพบว่า อวัยวะเพศของน้องฉีกขาด มีลักษณะถูกล่วงละเมิดทางเพศมาจริงๆ หมอเห็นว่าหากส่งน้องกลับไปอยู่กับครอบครัว ก็เหมือนต้องส่งน้องกลับไปอยู่ในนรกบนดิน จึงได้แจ้งให้เจ้าพนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กมารับตัวไปพักอาศัยที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร และหลังจากนั้นเมื่อพี่ชายของน้องทราบเรื่องราว จึงพาน้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.หลักสอง ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับนายอำนวย พ่อเลี้ยงใจทรามรายนี้ในที่สุด หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่แล้วก็ตกหลุมพราง แม่แท้ๆ ของเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย ที่สับขาหลอกเจ้าหน้าที่ให้ไขว้เขว อ้างไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบ “มันหนีไปแล้ว” ทำให้นายอำนวยหลบหนีการจับกุมไปได้

กระทั่งวันนี้ (1 มิ.ย. 67) ศอ.ปส.ตร. ร่วมกับชุดสืบนครบาล จับกุมตัว นายอำนวย อายุ 60 ปี ภูมิลำเนา ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.417/2567 ลงวันที่ 17 พ.ค. 67 ในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเด็กนั้นอยู่ในความดูแล หรืออยู่ในความปกครอง หรืออยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่น

โดยติดตามจับกุมตัวได้ที่ หน้าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 84 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค จ.กรุงเทพฯ

เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น.ติดตามจับกุมตัว โดยท้ายสุดสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังอยู่กับ แม่แท้ๆ ของเด็ก โดยขณะจับกุมชุดสืบสวนได้สอบถามแม่ของเด็กว่า “เหตุใดต้องสับขาหลอกช่วยเหลือคนร้าย ไม่สงสารบุตรสาวตัวเองหรือ?” ได้รับคำตอบว่า “ลูกสาวพูดไม่รู้เรื่อง”

ในชั้นจับกุม นายอำนวย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองได้พบกับผู้เสียหายครั้งแรกเมื่อตอนที่น้อง 3 ขวบ เพราะเริ่มคบกับแม่ของเด็กผู้เสียหาย ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำอะไร เด็กผู้เสียหายนั้นพูดไม่รู้เรื่อง เป็นโรคออทิสติก ครูโทรมาฟ้องบ่อยๆ ว่าไม่ตั้งใจเรียน เชื่อว่าเรื่องนี้เด็กเป็นคนกุเรื่องใส่ร้ายตนเอง ซึ่งหลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า ทางคดีเรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะคำพูดของเด็กนั้นบริสุทธิ์มากกว่า และจากการฟังเรื่องราวจากเด็กสาวผู้เสียหายแล้ว ไม่น่าจะมีเหตุผลใดที่เด็กสาววัยเพียง 12 ปี จะต้องโกหกปรักปรำคนในครอบครัวเดียวกัน หากเธอไม่ถูกกระทำจริง แล้วคดีนี้พยานหลักฐานชั้นพนักงานสอบสวนก็เพียงพอ ให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้

จากพฤติการณ์ในคดีนี้นับว่า น่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง สถาบันครอบครัวที่น่าจะเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเด็กๆ กลับกลายเป็นนรกบนดิน ที่สร้างบาดแผลลึกลงในใจของเด็กน้อยไปนานแสนนาน ตนขออวยพรให้น้องผู้เสียหายมีกำลังใจที่เข้มแข็งผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายในอดีต และเติบโตอย่างมีความสุขในวันข้างหน้า พร้อมขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.