เด็กหญิง ป.4 เมืองตรัง ขี่ม้าไปโรงเรียน ช่วยประหยัดน้ำมัน ซ้ำทำให้การเรียนดีขึ้น-มีสมาธิ

Home » เด็กหญิง ป.4 เมืองตรัง ขี่ม้าไปโรงเรียน ช่วยประหยัดน้ำมัน ซ้ำทำให้การเรียนดีขึ้น-มีสมาธิ


เด็กหญิง ป.4 เมืองตรัง ขี่ม้าไปโรงเรียน ช่วยประหยัดน้ำมัน ซ้ำทำให้การเรียนดีขึ้น-มีสมาธิ

เด็กหญิง ป.4 เมืองตรัง ขี่ม้าไปโรงเรียน ช่วยประหยัดน้ำมัน ซ้ำทำให้การเรียนดีขึ้น-มีสมาธิ ไม่เอาแต่ใจ ผอ.โรงเรียน เผยพฤติกรรมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

วันที่ 8 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 1 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง พบ ด.ญ.สุกัลย์ชนก ชัยทอง หรือ น้องหยก อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านทุ่งส้มป่อย อ.นาโยง จ.ตรัง กำลังขึ้นขี่ม้าลูกผสม อายุประมาณ 6 ปี เพื่อไปเรียนหนังสือ โดยระยะทางจากบ้านไปโรงเรียนเกือบ 3 กิโลเมตร มี นายจิระพงษ์ ชัยทอง อายุ 49 ปี พ่อ ขี่ม้าสีน้ำตาล-ดำ คอยตามประกบ เพื่อระวังรถเวลาข้ามถนนให้กับลูกสาว สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเด็กผู้หญิงคนแรกในจังหวัดตรัง ที่ขี่ม้าไปโรงเรียนได้อย่างแคล่วคล่อง ว่องไว

โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ขี่ม้าถึงโรงเรียนแล้ว และเมื่อเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จแล้ว พ่อน้องหยกจะพาม้าทั้งสองตัวกลับบ้าน ส่วนช่วงเย็นรถเยอะ กลัวว่าไม่ปลอดภัย ก็จะขับรถมารับน้องหยกแทน

ซึ่งน้องหยกเริ่มขี่ม้าไปโรงเรียนประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ขี่มาทุกวัน เนื่องจากคุณพ่อไม่ว่างตามมารับมาส่ง แต่หากมีเวลาคุณพ่อก็จะให้น้องหยกขี่ม้ามาโรงเรียนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับม้า ประหยัดค่าน้ำมันและได้ออกกำลังกายยามเช้า

โดยตลอดสองข้างทาง มีชาวบ้านให้ความสนใจ แห่บันทึกภาพและชื่นชมในความสามารถที่เกินตัวของน้องหยกตลอดทาง และที่โรงเรียน น้องหยกกลายเป็นฮีโร่ของเพื่อน ๆ ที่ทุกคนต่างอยากจะขี่ม้า โชว์ความเท่เหมือนอย่างน้องหยกบ้าง

สำหรับม้าลูกผสมทั้งสองตัวนี้ เจ้าของคือคุณพ่อของน้องหยก ซื้อมาจาก จ.กาญจนบุรีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยตัวแรกสีน้ำตาล-ดำ ชื่อซาร่า ซื้อมาในราคา 180,000 บาท ส่วนตัวสีขาวหม่นชื่อจัสติน ราคา 100,000 บาท เป็นม้าเพศเมียทั้งสองตัว อายุประมาณ 6 ปี นิสัยเชื่องมาก ไม่ดุร้าย อ่อนโยน โดยหลังซื้อม้ามาเลี้ยงเพิ่มอีก 2 ตัว น้องหยกก็ตั้งใจหัดขี่ม้าเรื่อยมา จนคุณพ่อวางใจและให้ขี่ม้ามาโรงเรียนได้

โดยน้องหยกยังทำหน้าที่ตัดหญ้าให้ม้า ป้อนหญ้าม้า และอาบน้ำให้ม้า จนกลายเป็นความรักความผูกพัน สมใจคุณพ่อที่อยากให้ลูกสาวทั้งสามคน มีสัก 1 คนที่ชื่นชอบม้าเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกับตน ซึ่งที่บ้านของน้องหยก มีม้าทั้งหมด 4 ตัวเป็นม้าพันธุ์พื้นเมือง 2 ตัว และม้าลูกผสม 2 ตัว และน้องหยกขี่ม้ามาโรงเรียนได้ทั้งสองตัวคือจัสตินกับซาร่า

ทั้งนี้พบว่าหลังจากที่น้องหยกได้ขี่ม้าและคลุกคลีอยู่กับม้าแล้ว ทำให้นิสัยของน้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากลูกคนสุดท้องที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง ร้องไห้บ่อย กลายเป็นเด็กเรียน ใจเย็น มีสมาธิ มีจิตอาสาสูง ร่าเริงและกล้าแสดงออกมากขึ้น โดยพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

นายจิระพงษ์ ชัยทอง พ่อน้องหยก กล่าวว่า ม้าสีขาวชื่อจัสติน ส่วนสีน้ำตาลชื่อซาร่า ส่วนลูกสาวฝึกขี่ม้ามาปีกว่าแล้ว ซึ่งลูกสาวเห็นตนเลี้ยงและดูเป็นตัวอย่าง ต่อมาจึงหัดขี่เองโดยขี่ไปโรงเรียนมานานเป็นปีแล้ว ซึ่งพ่อต้องตามประกบ ส่วนสาเหตุที่น้องชอบขี่ม้าคงมาจากสายเลือด โดยระยะทางจากบ้านไปโรงเรียนประมาณ 2 กิโลกว่า แต่ขี่ไม่ทุกวัน เพราะนอกจากจะประหยัดแล้ว เด็กยังได้ออกกำลังกายไปด้วย โดยมีชาวบ้านชอบและสนับสนุนกันทุกคน ซึ่งเวลาตนไม่อยู่ น้องก็จัดการเองหมด

ส่วน น้องหยก กล่าวว่า ที่ชอบขี่ม้าเพราะมันคุ้นและน่ารักดี ซึ่งตนก็ต้องเลี้ยงม้าด้วยการอาบน้ำและป้อนหญ้าให้กินด้วย โดยตัวสีขาวที่ขี่ชื่อจัสติน ซึ่งการขี่ม้าทำให้ได้ออกกำลังกายและประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย ชาวบ้านเห็นแล้วขอถ่ายรูปเยอะมาก ซึ่งจะขี่มามาโรงเรียนนานเท่าไหร่นั้นไม่แน่ใจ แต่ชอบ โดย 1 อาทิตย์จะขี่ม้ามาโรงเรียน 2 ครั้ง ซึ่งตอนแรกก็กลัว แต่ตอนนี้มั่นใจขึ้นมากแล้ว

ขณะที่ น.ส.วาสนา ศรีเปาระยะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งส้มป่อย กล่าวว่า น้องเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ร้องไห้บ่อย และถ้าไม่อยากเรียนวิชาอะไรแล้วก็จะไม่เรียนทั้งชั่วโมง แต่หลังจากคุยกับครอบครัว โดยเห็นพฤติกรรมว่าเขาเป็นคนเลี้ยงม้าและขี่ม้าบ่อย เลยดึงจุดนี้เป็นจุดเด่นของให้ และคุยกับพ่อกับอาว่า ให้เขาลองขี่ม้าเรื่อย ๆ และลองพาม้ามาที่โรงเรียนบ้าง

วันหนึ่งน้องขี่ม้ามาโรงเรียนได้ ทำให้เพื่อน ๆ ยอมรับและมองตัวเองเป็นคนที่มีจุดเด่น เป็นคนที่มีดีในตัวและทำอะไรบางอย่างที่เท่กว่าคนอื่นได้ โดยขี่ม้าวนในโรงเรียนและจูงม้าให้คุณครูขี่ได้

หลังจากวันนั้น น้องหยกก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไป เป็นคนรักตัวเองมากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น ประเภทที่นั่งเหวี่ยงใส่คุณครูไม่เรียนวิชาโน่นวิชานี่ก็หายไป และตอนนี้ก็เริ่มเป็นจิตอาสาสูง ไม่ว่าคุณครูจะตัดหญ้า ตัดแต่งพุ่มไม้ที่ค่อนข้างเป็นงานผู้ชาย เขาก็สามารถจับเครื่องตัดหญ้าได้ จับกรรไกรตัดกิ่งพุ่มไม้ได้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ จุดนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เขา และเขาก็กลายคนหนึ่งที่เป็นฮีโร่ของโรงเรียนบ้านทุ่งส้มป่อย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ