“เด็กบิ๊กตู่” ย้อน “แม้ว” ช่วยรีวิวคดีโกงชาติ ยุค ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ทำรัฐล้มเหลวสูงสุดในประวัติศาสตร์ ยัน “บิ๊กตู่” ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ มุ่งสร้างรายได้ปชช. ย้ำ ยุบสภาไม่กระทบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
23 มี.ค. 66 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วันไม่เกิน 60 วันนั้น
ขอย้ำกับพี่น้องประชาชนผู้ผ่านเกณฑ์ และยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำเร็จ ภายในวันที่ 26 มี.ค. จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ตามกำหนดการที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุด วันที่ 21มี.ค. มีผู้ผ่านเกณฑ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ยืนยันตัวตนสำเร็จ 11,383,700 ราย คิดเป็น 77.99% ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 14,596,820 ราย
โดยมีจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ทั้งสิ้น 1,122,950 ราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งยกระดับสวัสดิการประชาชน ขยายผลการดูแลให้ทั่วถึงเท่าเทียมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
“กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วิจารณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า แจกเงินแบบไม่คิดนั้น จะสังเกตว่า นายทักษิณ วิจารณ์โจมตีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งตนก็ได้ทวงถามถึงความชัดเจนว่า จะเสนอให้พรรคเพื่อไทยยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ ทั้งที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบัตรรัฐสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่ประสบความสำเร็จประชาชนพึงพอใจมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ประชาชนอยากให้ นายทักษิน รีวิวบ้างคือ รัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ โกงชาติโกงประชาชนไปเท่าไร จากนโยบายจำนำข้าว คดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก คดีปล่อยกู้กรุงไทยที่ปล่อยให้ลูกน้องติดคุกแทน และอีกอีกหลายคดี จนกลายเป็นรัฐล้มเหลวมากที่สุดในประวัติศาสตร์” น.ส.ทิพานัน กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการเพิ่มรายได้ประชาชน เป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำแล้ว ซึ่งได้แยกจากการการให้สวัสดิการพื้นฐานของรัฐที่ประชาชนตามกลุ่มเป้าหมายควรได้ โดยผ่านโครงการต่างๆ ที่ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพและยกระดับรายได้
อีกทั้งการต่อยอดยกระดับอุตสาหกรรมเดิม และ 7 อุตสาหกรรมใหม่ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่การลงทุนและแหล่งบ่มเพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ มีการสนับสนุนให้การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ มีการจัดการผลผลิต/ตลาดใส่ใจคุณภาพ
ซึ่งเป็นการทำงานเพื่อยกระดับรายได้ และอื่นๆ อีกมาก เป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำแล้ว ทำอยู่ และเชื่อว่า ประชาชนจะไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำต่อ