นักวิทยาศาสตร์แห่งสหภาพยุโรป ได้ยืนยันเมื่อวันพุธว่า “เป็นที่แน่นอนแล้ว” ว่าปีนี้คือปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 125,000 ปี หลังจากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อเดือนก่อนชี้ว่าอุณหภูมิทั่วโลกร้อนสุดทำสถิติใหม่ไปแล้ว
หน่วยงานดูแลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในยุโรป (Copernicus Climate Change Service- C3S) เผยว่า อุณหภูมิเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทุบสถิติเดิมเมื่อปี 2019 ที่ 0.4 องศาเซลเซียส และความผิดปกติของสภาพอากาศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถือว่า “รุนแรงอย่างยิ่ง”
หน่วยงาน C3S ยังระบุว่า อุณหภูมิที่ร้อนทำสถิติใหม่ในเดือนตุลาคม ยังสะท้อนว่า “เป็นที่แน่นอนแล้ว” ว่าปี 2023 นี้ จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดทำสถิติใหม่ โดยเจ้าของสถิติเดิมคือในปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญเช่นกัน
อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ พ่วงด้วยปรากฎการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นในปีนี้ ดันให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในเดือนตุลาคม พุ่งสูงกว่าระดับปกติในเดือนตุลาคมราว 1.7 องศาเซลเซียส
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศผิดธรรมชาติได้เติมเชื้อไฟให้เกิดการภัยพิบัติธรรมชาติจากสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง โดยในปีนี้มีเหตุอุทกภัยที่คร่าชีวิตนับพันคนในลิเบีย คลื่นความร้อนในแอฟริกาใต้หลายครั้ง รวมทั้งฤดูไฟป่าเลวร้ายในแคนาดา