เดือดออนไลน์ แฟนคลับโวย โดนรายการโกงสิทธิ์กิจกรรม ดันแฮชแท็ก #ฟู้ดทรัคโกงเหรอ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ไร้คำตอบและข้อแถลงจากด้านผู้จัด
เรียกได้ว่ามีดราม่าให้พูดถึงไม่เว้นวัน สำหรับรายการ Food Truck Battle ซีซั่น 2 รายการวาไรตี้แข่งขันการทำและขายอาหารบนรถฟู้ดทรัค ซึ่งมีการนำเอาศิลปินไทยและศิลปินเกาหลีมาร่วมทีมกัน
- แฟนคลับดราม่าผู้จัด FoodTruckBattleSS2 แบบนี้เรียกหลอกลวงผู้บริโภคไหม?
รายการนี้ มีหนึ่งกิจกรรมที่แฟนๆตั้งตารอ คือ Event Pass ซึ่งเป็นการไปซื้ออาหารจากมือศิลปิน โดยผู้ที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ จะต้องมาจากสิทธิ์ Top Spender (ผู้ที่ซื้อของจากสปอนเซอร์ยอดสูงสุดหรือจากการสะสมแต้มสมาชิกรายการ)
โดยการถ่ายทำวันแรก เมื่อ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็เปิดให้ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมตามปกติ จำนวน 300 คน ทุกคนจะได้รับคูปองคนละ 1 ใบ เพื่อใช้ซื้ออาหารจากทีมที่ชอบ (แบ่งเป็นทีมสีแดงและสีน้ำเงิน) แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อจำนวนคนของแต่ละทีมต่างกันเกินไป ทำให้หลายคนได้รับสิทธิ์ไม่ครบถ้วน จึงทำการร้องเรียนปัญหากับผู้จัดผ่าน แฮชแท็ก #FoodTruckBattleSS2
จนเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) ก็เกิดดราม่าครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับกิจกรรม Event Pass วันที่ 2 ที่เปิดให้ ผู้ได้รางวัลจากสิทธิ์ Top Spender เข้ามาซื้ออาหารจากมือศิลปิน โดยประกาศจำนวนไว้ คือ 300 คน แต่ความเป็นจริงกลับพบว่าจำนวนคนเกินสิทธิ์ที่ประกาศไว้
ทำให้แฟนคลับเกิดข้อสงสัยว่า สิทธิ์ที่เกินมาจากไหน เพราะถ้าไม่ได้มาจากสิทธิ์ Top Spender ก็ถือเป็นการเอาเปรียบคนที่จ่ายเงินทำตามกติกาเพื่อชิงรางวัลนี้ กระทั่งได้หลักฐานและพยานจากหลายๆฝ่ายพบว่า มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ทำให้เกิดแฮชแท็ก #ฟู้ดทรัคโกงเหรอ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาอธิบาย
เพราะมีหลักฐานจากหลายฝ่าย พบว่ามีการอ้างในแบบฟอร์มที่คล้ายกัน คือ ทักหาคนไปใช้สิทธิ์แทน เพราะติดธุระ ไม่สามารถไปร่วมกิจกรรมได้ พร้อมทั้งย้ำว่าห้ามบอกใครว่าได้สิทธิ์มาจากไหน และต้องแอบเข้าไปแบบลับๆ ทำให้หลายคนรู้สึกเอะใจ และรู้ได้ทันทีว่านี่คือการทำผิดกติกา แอบเพิ่มสิทธิ์แบบฟรีๆ ถือเป็นการโกงแฟนคลับที่จ่ายเงินทำตามกฏ
ล่าสุดผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น สปอนเซอร์หลายแบรนด์ ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวประเด็นเพิ่มสิทธิ์แล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับรู้การกระทำแต่อย่างใด แต่ด้านบริษัทผู้ผลิตและดูแลรายการ ยังคงปล่อยเบลอและไม่ออกมาชี้แจงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแฟนคลับที่ได้รับผลกระทบหลายๆคน เริ่มมองหาช่องทางในการดำเนินคดีตามกฏหมาย เพราะหากเป็นเรื่องจริงตามหลักฐานต่างๆที่ปรากฏ ก็นับว่าเป็นการฉ้อโกงอย่างแท้จริง
