“เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย แสดงความมุ่งมั่นในการบริหารงานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชี้ต้องใช้งานคนที่เข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอลจริงๆ ย้ำว่าจะพาทีมชาติไทยไปบอลโลกให้ได้ พร้อมวาง “ดรีมทีม” ผู้บริหารสมาคมบอลไทย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เหมาะเป็นเลขาธิการสมาคมฯ

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้กล่าวผ่าน ช่องยูทูบ “ฟุตบอล 108” ถึงการเป็นนายกสมาคมฯ ว่า ดูจากเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น คนฟุตบอลเข้ามาบริหารงาน ต้องให้คนรู้ฟุตบอล เข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอล ตนอยากเป็นตัวเลือก ได้บอกแนวทาง บอกความรู้ ได้ไม่ได้อีกเรื่อง ควรจะมีการดีเบตแนวทางพัฒนา เข้าใจดีว่า การเลือกตั้งผู้บริหารสมาคมฯ นั้น คะแนนเสียงอยู่ที่สโมสรสมาชิก อยู่ที่นักการเมืองที่คุมทีม ตนเองยอมรับว่าไม่มีฐานเสียงเลย

“ที่นำเสนอไป ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นนายกสมาคมฯ อย่างเดียว อาจไปเป็นประธานเทคนิคก็ได้ ถ้าคุยกันทำงานร่วมกับคนที่จะมาเป็นนายกได้ แต่ที่บอกว่าจะเป็นนายก เพราะการจะเสนอนโยบาย ก็ต้องบอกว่าจะเป็นนายก”

เดอะตุ๊ก กล่าวด้วยว่า ทีมชาติคือหัวใจสำคัญ ตนเตรียมแผนไว้แล้ว ต้องเล่นกับพื้น อย่างบอลเด็ก อายุ 8-12 ปี เล่นกับพื้น ใช้หัวโหม่งเข้าประตูไม่ได้ ส่วนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ก็ต้องมีแผนระยะสั้น-กลาง-ยาว ฟุตบอลโลก 2026 โควตาเอเชีย 8 ทีม กับอีก 1 ไปเพลย์ออฟ ใครทำไม่ได้ ตนจะทำให้ ถ้าทำไม่ได้จะถอยออกมา เตรียมวิธีการไว้หมดแล้ว คุยแผนการกับคนอดีตนักบอลทีมชาติ หรือกูรู จนตกผลึก

เมื่อถามว่าในจินตนาการมีใครบ้าง ที่จะเป็นทีมบริหารงานสมาคมบอลฯ ปิยะพงษ์ กล่าวว่า ต้องมีทั้งรุ่นก่อน หลัง และรุ่นเดียวกับตน อย่าง เฉลิมวุฒิ สง่าพล, วรวรรณ ชิตะวณิช หรือ ถิรชัย วุฒิธรรม หรือรุ่นหลังๆ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, “แบน” ธชตวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล, ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค แม้แต่รุ่นต่อมา “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย รวมทั้งนักวิชาการ ผู้สื่อข่าว ที่มีความรู้มากมาย เข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอล

กับคำถามว่า หากเดอะตุ๊ก ได้เป็นนายก วางทีมงานคร่าวๆ อย่างไร ตำนานทีมชาติไทย กล่าวว่า อยากได้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นเลขา เพราะมีคอนแท็คเยอะ, ประธานผู้ตัดสินก็อย่าง “เปาแป๊ก” ปรัชญา เพิ่มพานิช ที่เคยผ่านฟุตบอลโลก หรือ “เปาปุ้ม” พงศธร เพิ่มพานิช ส่วนโค้ช ต้องรุ่นใหม่อย่าง สะสม พบประเสริฐ, ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ทุกชุดต้องล้อกัน แต่ยังชอบโค้ชเกาหลี มาปรับทัศนคตินักเตะไทย ขณะเดียวกัน ยังถูกใจ อากิระ นิชิโนะ ที่ตอนนั้นติดปัญหาโควิด ทำงานไม่เต็มที่ ตนเชื่อว่ามีฝีมือ เอามาทำงานร่วมกับโค้ชเกาหลี ส่วน มาโน โพลกิง ก็เก่ง แต่ไม่เก่งพอจะพาทีมไทยไปบอลโลก

ส่วนที่เคยบอกว่า ทีมชาติไทยต้องมีโค้ชกองหน้านั้น เดอะตุ๊ก กล่าวว่า หมายถึงเอามาแนะนำได้ ในการแก้เกม เจอกองหลังต่างแบบกันไป ไม่ได้หมายความว่าทำให้เก่งขึ้นมา เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับอคาเดมี่
เดอะตุ๊ก นับเป็นนักเตะที่ดีสุดที่ไทยเคยมี และกับคำถามว่า มีนักเตะคนไหนที่เก่งในระดับเดียวกัน ปิยะพงษ์ บอกว่า “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มองมานานแล้ว มีอะไรแตกต่างกว่าเดิมทุกครั้งที่ลงสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่นักบอลเยาวชนต้องมี คิดว่าไปเล่นยุโรปได้ อาจไปญี่ปุ่นก่อนสัก 2-3 ปี มีโอกาสไปเล่นพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้

เดอะตุ๊ก กล่าวถึงโอกาสที่ไทยจะได้ไปบอลโลก ว่า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้อาจไม่เชื่อ แต่ตอนนี้โควตา 8 ทีมกับทีมเพลย์ออฟ มันถึงเวลาแล้ว

“ถึงเวลาแล้วที่ทีมชาติไทยต้องได้ไปฟุตบอลโลก แต่ต้องมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน และคนที่มาทำ ต้องรู้จักวัฒนธรรมฟุตบอล อย่ากอบโกยผลประโยชน์เข้าใส่ตน ต้องเห็นประเทศชาติเป็นสำคัญ นี่คือเรื่องของฟุตบอล ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ขอให้เข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอล แล้วจะสร้างความสุขให้คนไทยได้” เดอะตุ๊ก กล่าว พร้อมทิ้งท้ายอย่างเชื่อมั่นว่า จะได้เห็นไทยไปบอลโลกก่อนตนจะตาย.