เดชอิศม์ ผงาด รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ลั่น พร้อมชนเลือกตั้งซ่อมสงขลา-ชุมพร โว เลือกตั้งสมัยหน้าทวงคืนเก้าอี้แดนสะตอ ได้ไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่ง
วันที่ 18 ธ.ค.2564 นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนจะทำงานอย่างเต็มที่ มั่นใจจะประสานคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ได้ ขอประกาศว่าจะเอาที่นั่งส.ส.ภาคใต้กลับมาให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้เพียง 22 ที่นั่ง
นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเลือกตั้งซ่อมในจ.สงขลา เขต 6 และ จ.ชุมพร เขต 1 ตามมารยาทพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ควรที่จะส่งผู้สมัครลงแข่ง แต่เมื่อส่งลงแข่ง ตนขอสู้เต็มที่และพร้อมชน เพราะเลือกตั้งซ่อมเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ เชื่อว่าฝ่ายที่มีอำนาจมากกว่าเรา เขาถล่มเราเต็มที่ แต่มั่นใจว่าชาวใต้เข้าใจการเมืองช่วงนี้อย่างละเอียดถ่องแท้ จึงคิดว่าตัดสินใจไม่ยากนัก
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะชูนโยบายฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมภาคใต้ เพราะแต่ละปีรัฐจัดซื้องบอาวุธเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยทำสงครามอะไร แต่กลับละเลยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ประชาชนเสียชีวิตจากโรคเพราะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ดังนั้น เราจะรณรงค์ในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้ศึกเลือกตั้งซ่อมในการโชว์ฝีมือการเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้เลยใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า จะทำงานอย่างเต็มที่ แต่เวลาในการเลือกตั้งซ่อมมีระยะเวลาสั้น ก็อาจทำให้เห็นศักยภาพได้ไม่เต็มร้อย อาจจะได้เห็นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 จังหวัด เพราะผลการเลือกตั้งซ่อมอาจซ้ำรอยที่ จ.นครศรีธรรมราช นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะสมัยเลือกตั้งนายกอบจ. พรรคพลังประชารัฐก็ส่งผู้สมัครในนามพรรคที่จ.สงขลา และเป็นจังหวัดเดียวที่พรรคพลังประชารัฐส่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ชนะมาได้ ฉะนั้น มั่นใจว่าสู้ได้
ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลังแพ้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ว่า ตนชัดเจนอยู่แล้วว่าต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเราแพ้ ซึ่งการเลือกตั้งก็เป็นไปตามกลไกของพรรค และยินดีด้วยกับนายเดชอิศม์ และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ได้ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคแทนนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า เท่ากับว่าทั้งสองคนเข้ามาเป็นจิตอาสาที่จะเดินหน้านำพรรคเพื่อเปลี่ยนแปลงไปตามแนวความคิดของทีมผู้ชนะต่อไป ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่พวกตนต้องสนับสนุนว่าพรรคของเราควรจะเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังยึดมั่นอุดมการณ์และวิธีการของพรรคเป็นจุดหลักของตน และจะรักษาแนวคิดนี้อย่างมั่นคงต่อไป
เมื่อถามว่า แสดงว่ายังสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่มีความขัดแย้งกันใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในเรื่องกระบวนการทำงานทีมที่ชนะก็ต้องมีความรับผิดชอบโดยตรงกับพรรค และขอให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งจะต้องพรรคไปสู่ชัยชนะและเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนการทำงาน ทั้งนี้ ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มานาน ยึดถือพรรคเป็นหลักในการทำงานการเมือง มั่นใจที่เราทำพรรคของเราให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน โดยส่วนตัวมีหน้าที่เป็นประธานวิปของพรรค และเป็นรองประธานวิปรัฐบาล รับภารกิจเต็มเวลาอยู่แล้ว
ถามว่า การแพ้ครั้งนี้ไม่เสียใจใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า อยู่กับพรรคมานาน และระบบของพรรคไม่มีทางลัด คนที่เข้ามาใหม่เห็นว่าพรรคควรจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้น เราก็ต้องสนับสนุนการทำงาน และติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร