ตีกันบ่อยเกิน เมียหนีไปเช่าบ้านอยู่ ผัวโผล่มาเยี่ยมไม่บอกก่อน แค่เห็นหน้าก็รู้เมียมีพิรุธ ก้มมองใต้เตียงเจอเต็มๆ ซ่อนชู้ไว้ในบ้าน?!
นายหยู และนางโจว อาศัยอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เคยมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุข อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันบ่อยครั้ง กระทั่งตัดสินใจแยกกันอยู่ในที่สุด โดยฝ่ายภรรยาอ้างว่าเธอทนไม่ได้กับอารมณ์รุนแรง และความขี้ระแวงที่ไม่มีเหตุผลของสามี จึงอยากย้ายออกไปอยู่ตามลำพัง
เพื่อให้เดินทางไปทำงานได้ง่ายขึ้น เธอได้เช่าบ้านเช่าใกล้กับบริษัท และจะกลับมาบ้านเพื่อเยี่ยมสามีและลูกๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ขณะที่ฝ่ายสามีก็ยังมาเยี่ยมเยียนภรรยาที่บ้านเช่าในบางครั้ง เพราะทั้งคู่ยังคงเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย
กระทั่งวันหนึ่งในเวลาประมาณ 21.00 น. นายหยูออกไปทำงานและผ่านบ้านเช่าของภรรยา เขาจึงตัดสินใจแวะเข้าไปหาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้านก็สังเกตเห็นว่าท่าทีของภรรยา ดูไม่เป็นธรรมชาติ สับสน และกังวล ทำให้เขาเริ่มคาดเดาได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงเริ่มค้นหารอบๆ ห้อง และในที่สุดก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายแปลกหน้าซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงของภรรยา
นายหยูโกรธมากจนตบหน้าภรรยา จากนั้นก็พยายามทำร้ายชายอีกคนด้วย แต่ภรรยาเข้ามาห้ามไว้ ชายอีกคนจึงฉวยโอกาสนั้นวิ่งหนีได้สำเร็จ เมื่อเหลือเพียงสามีภรรยาอยู่ด้วยกัน นางโจวอธิบายว่าชายคนนั้น “เป็นแค่เพื่อนร่วมงาน” สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่สามีคิด เธอเพียงพาเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนิมกลับมาที่บ้านเพื่อกินดื่มและพูดคุยกัน แต่ไม่คาดคิดว่าสามีจะมาหากะทันหัน และเพราะกลัวว่าสามีจะเข้าใจผิด เพื่อนร่วมงานจึงไปซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง
อย่างไรก็ดี สามีได้ฟังแล้วก็ยังคงไม่เชื่อ เพราะถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่จำเป็นต้องซ่อน ในตอนนี้ภรรยาอธิบายเพิ่มเติมว่า เพื่อนร่วมงานคนนี้พยายามสานสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอปฏิเสธไปแล้ว พร้อมบอกว่าเธอยอมรับผิดที่พาชายคนนั้นมาที่ห้อง โดยหวังว่าสามีจะยกโทษให้ ในท้ายที่สุดสามีก็สงบลง และแนะนำให้ภรรยารักษาระยะห่างจากผู้ชายคนอื่น
หลังจากเหตุการณ์นั้น นางโจวก็ได้ย้ายกลับบ้านไปอยู่กับสามีและลูกๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นด้วย แต่โดยไม่คาดฝัน 2 เดือนต่อมา สามีก็ค้นพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยของภรรยาอีกครั้ง ในตอนที่เขาออกไปทำธุระสองสามวัน วิดีโอคอลหาแต่ภรรยาไม่รับสาย เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งก่อนทำให้เขาไม่ไว้ใจภรรยาเต็มร้อย จึงตัดสินใจโทรหาพ่อตาเพื่อสอบถาม พ่อตาบอกว่านางโจวเอาหลานๆ มาฝากให้ดูแล แล้วออกไปที่ไหนสักที่ไม่รู้
นายหยูยิ่งสงสัยในตัวภรรยาเพิ่มขึ้นอีก เขาตัดสินใจขับรถมากกว่า 300 กม.กลับบ้านในตอนกลางคืนทันที แต่เมื่อมาถึงก็ไม่พบภรรยา จึงโทรหาภรรยาอย่างลนลาน เพียงเพื่อได้รับคำตอบมาว่า “อีกไม่นานจะกลับ” ครึ่งชั่วโมงต่อมาภรรยากลับมาบ้าน และอธิบายว่าเธอกำลังร้องเพลงกับเพื่อนๆ เธอจึงรับโทรศัพท์ไม่ได้ แน่นอนว่าสามีไม่เชื่อ เขาจึงเอาโทรศัพท์ของภรรยาไปเช็กดู และพบว่าเธอมักจะแชทกับชายแปลกหน้า ด้วยเนื้อหาล่อแหลมมากๆ ชัดเจนว่าเธอ “มีชู้”
นายหยูควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทุบตีภรรยาจนเธอหวาดกลัวรีบยอมรับความผิด สัญญาว่าจะไม่แอบคบชู้อีก แล้วยังใช้ลูกๆ เป็นเกราะกำบังเพื่อให้สามีสงสาร ในท้ายที่สุดนายหยูก็ให้อภัยภรรยาอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ปมในใจของเขาไม่สามารถลบออกไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็คอยจับผิดคำพูดและการกระทำของภรรยาเสมอ ทำให้ภรรยาเหนื่อย เครียด และวิตกมาก จึงตัดสินใจขอหย่า
ฝ่ายสามีเมื่อเห็นท่าทีแนวแน่ของภรรยา เขาจึงตกลงที่จะหย่าร้างกับเธอ แต่ขอให้ภรรยาชดเชยความสูญเสียทางจิตใจของเขา ซึ่งเธอไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงลงเอยด้วยการใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการหย่าร้างนี้