เซ่น! คดีกำนันนก กรมราชทัณฑ์ ลงดาบเจ้าหน้าที่ช่วยทำลายหลักฐาน

Home » เซ่น! คดีกำนันนก กรมราชทัณฑ์ ลงดาบเจ้าหน้าที่ช่วยทำลายหลักฐาน

คดีกำนันนก

กรมราชทัณฑ์ ลงดาบ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เซ่น คดีกำนันนก หลังช่วยนำเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดบ้านของกำนันไปทิ้ง พบเข้าทำงานได้ไม่ถึงปี

จากกรณี คดีกำนันนก ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งยิงสารวัตรแบงค์ หลังจากตำรวจลงพื้นที่เพื่อเก็นหลักฐานพบว่า มีวัตถุพยานหลายอย่างหายไป รวมไปถึงตัวคนร้ายที่ทำการหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ ทั้งที่ภายในงานเลี้ยงพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าวใหญ่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการตั้งคำถามว่า ตำรวจไปทำอะไรที่บ้านกำนันกันแน่ และมีใครบ้างที่ช่วยคนร้ายหลบหนี ร่วมไปถึงการพยายามทำลายหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

คดีกำนันนก-2

จากการสืบสวน เริ่งมีการระบุผู้มี่ส่วนเกี่ยวข้องได้บ้างแล้ว ล่าสุด วันที่ 10 กันยายน 2566 นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่บ้านกำนันนก จังหวัดนครปฐม โดยเป็นผู้ที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านของกำนันนกโยนลงน้ำนั้น

  • ฝากขัง 6 ตร.กลางดึก เอี่ยวคดี ยิงสารวัตรทางหลวง-ช่วยผู้ต้องหาหลบหนี
  • เปิดคำสั่ง! ‘พ.ต.ต.-ร.ต.ท.’ ออกราชการไว้ก่อน เอี่ยวคดียิงสารวัตรทางหลวง
  • คดียิงสารวัตรแบงค์ ยศนายร้อย โดนรวบพรึบ มียศนายพัน คนเดียว

นายสิทธิ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีในเรื่องดังกล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่า บุคคลดังกล่าวที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ คือ นายฐิตินันท์ (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานราชการที่มาปฎิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ยังทำงานไม่ถึงปี และมิใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้แล้ว

คดีกำนันนก-1

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งการให้เรือนจำฯ ประสานขอหลักฐานการจับกุมและการควบคุมตัวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงยกเลิกสัญญาจ้าง และในส่วนของการดำเนินคดีอาญาขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

นายสิทธิ กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงต้องดำเนินการและลงโทษขั้นเด็ดขาด

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ