เชื่อสายสิญจน์พารอดตาย! ชายถูก รองนายก อบต. ชัก 11 มม.จ่อยิง 2 นัด ดังแซะๆกระสุนด้าน ก่อนโดนปืนตบเลือดอาบ เผยสาเหตุโดนลอบฆ่า

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 22 ก.ค.65 ร.ต.อ.(หญิง)ภัทรพร ดานุวงศ์ รองสารวัตรเวร(สอบสวน ) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจาก นายทองดี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาว ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าช่วงเวลา ประมาณ17.30 น. ขณะกำลังขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน จากนั้นภรรยาเปิดประตูรถลงไปนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หน้าบ้าน

ขณะเดียวกันช่วงที่ตนกำลังรับสายโทรศัพท์คุยอยู่ในรถราว1 นาที ได้ยินเสียงประตูรถด้านฝั่งคู่คนขับเปิดออก เมื่อหันมามองเห็นว่าเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ชักปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ออกมาจากเอว แล้วลั่นไกใส่ตนเองแบบระยะเผาขน 2 นัดซ้อนๆ เดชะบุญกระสุนด้าน ดังแชะแชะ

โดยมีพี่ชายของรองนายกฯ คนดังกล่าวเดินอ้อมมาทางหน้ารถ ซึ่งหลังจากปืนยิงไม่ออกรองนายกอบต.ใช้ปืนตบเหนือคิ้วซ้ายของตน 1 ครั้งอย่างแรงจนเป็นแผลลึก ก่อนที่พี่ชายของรองนายกอบต.จะเปิดประตูฝั่งคนขับเข้ามาช่วยน้องชายอีก ตนรีบป้องกันตัวแย่งปืนกับรองนายกอบต. เกรงว่าจะถูกยิงซ้ำ ขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุทั้งสอง รีบผละออกจากรถแล้วขับรถออกจากบ้านไป

เมื่อตนเองเปิดประตูรถออกมา รีบบอกนางไพรินทร์ ศรีพรม ภรรยาที่นั่งอยู่หน้าบ้านให้รีบขับรถพาไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เย็บแผลเหนือคิ้วซ้าย 7 เข็ม

สำหรับสาเหตุที่ถูกประกบยิง 2นัดซ้อน ๆ แต่กระสุนด้าน ปืนยิงไม่ออก ไม่ระคายผิวในครั้งนี้ คาดอาจเป็นเพราะเมื่อวานนี้ (21ก.ค.) คนเฒ่าคนแก่ที่เป็นปู่ย่าตายายญาติพี่น้องของตนเอง ได้มาผูกแขนด้วยสายสิญจน์ รับขวัญให้ตนเองอายุครบ 45 ปีพอดี ที่คนโบราณถือว่าเป็นช่วงเบญจเพส (ลงท้ายด้วย 5) ได้มาสู่ขวัญ – ต่อชะตาอายุให้ยืนยาวอยู่มั่นขวัญยืนตามประเพณีความเชื่อท้องถิ่น ให้แต่ศีล-พร ตนขอยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับคนทั้งสอง

ทั้งนี้สำหรับสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องการขายเหล็ก เนื่องจาก รองนายก อบต.คนดังกล่าว โทรเข้ามาหานายทองดี หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับสาย และคงคิดว่าเอาเหล็กไปขายไม่แบ่งเงินให้

นายทองดี กล่าวต่อว่า ขณะที่ไปทำแผลที่โรงพยาบาลฯ มีคนเข้ามาเคลียร์เพื่อยอมความ แต่ตนไม่ยอมเพราะรองนายกอบต.กับพี่ชายพยายามฆ่าตนเอง จึงจะดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด

ด้าน นางไพรินทร์ กล่าวว่า หลังลงจากรถแล้วมานั่งที่โต๊ะ ยังไม่รู้เรื่องว่ามีคนตามมายิงสามี เห็นว่าคนรู้จักกันมาคุยกับสามีกระทั่งได้ยินเสียงโวยวาย และเห็น 2 คน ขับรถออกไป โดยที่สามีเลือดอาบแก้ม จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาลฯ รู้สึกหวาดกลัวผู้ก่อเหตุ จะย้อนมายิงสามีอีกครั้ง อาจไม่โชคดีเช่นในครั้งนี้ อยากให้ตำรวจฯมาคุ้มดูแลความปลอดภัยให้ด้วย ขณะที่ทางญาติๆทราบข่าว เดินพากันทางมาถามข่าวคราวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง