เชือดจริง! เลขาธิการ กอศ.ใช้ยาแรง สั่งปิดวิทยาลัย 1-2 เดือน หากสถานศึกษา แก้ปัญหานักศึกษาตีกันไม่ได้ ส่งรายชื่อเด็กที่ก่อเหตุประจำ ให้ตร.ช่วยดูแลอีกทาง

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) จะเป็นประธานเปิดศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (ศป.สอศ.) หรือ Ovec safety center โดย ศป.สอศ.จะทำงานเชื่อมโยงกับศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Center) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำศูนย์เพื่อรวบรวมข้อมูล และเฝ้าระวังปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหานักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาทะเลาะวิวาทกัน

โดยขณะนี้ สอศ.ทำงานแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาทะเลาะวิวาท ในลักษณะเชิงรุกมากขึ้น โดยศป.สอศ. จะนำนโยบาย 3 ป. ของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. คือ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม มาปฏิบัติและทำงานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นต้น หากป้องกัน และปลูกฝังแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทได้ สอศ.จำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมาย คือ ปราบปราม

“ปัจจุบันสถิติการทะเลาะวิวาทลดลง ส่วนใหญ่ที่นักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ก็จะเป็นที่เดิม สถานบันเดิม และส่วนใหญ่จะเกิดในกรุงเทพและปริมณฑล จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีสถานศึกษาอาชีวเอกชนอยู่ประมาณ 2 แห่ง ที่นักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประจำ ผมมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษารายละเอียด พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550

เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับสถานศึกษาอาชีวเอกชน ที่ไม่สามารถควบคุมดูแลผู้เรียนของตนได้ จนมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยอันดีของบ้านเมือง โดยจะส่งทีมไปเตือนก่อนว่า ขอให้สถานศึกษาปรับระบบดูแลนักเรียน นักศึกษาใหม่ หากสอศ.เตือนครั้งที่ 3 แล้วยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็จะสั่งปิดสถานศึกษาเป็นเวลา 1-2 เดือน แต่ถ้าสถานศึกษาสามารถปรับปรุงแก้ไขปัญหาได้ ก็จะให้กลับมาเปิดสถานศึกษาเหมือนเดิม” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว

เลขาธิการฯกอศ. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษานั้น จะเกิดนอกสถานศึกษา ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สอศ.ไม่มีอำนาจ จับเด็กนอกสถานศึกษาอยู่แล้ว เป็นอำนาจของตำรวจที่จะดำเนินการ ดังนั้น สอศ.จะสำรวจและส่งรายชื่อนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประจำ ให้ทางตำรวจและฝ่ายปกครอง ไปช่วยเหลือตรวจตราดูแลอีกทางหนึ่ง

และจากที่ตนลงไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษา พบว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งมีระบบดูแลนักเรียน นักศึกษาดีมาก เด็กไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในสถานศึกษาเลย และจากข่าวจะเห็นว่านักเรียน นักศึกษาจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทแย่งเสื้อช็อป แย่งหัวเข็มขัดกัน ตนก็จะกลับไปดูระเบียบของ สอศ.ว่าในอนาคตจะแก้ระเบียบไม่ให้นักเรียน นักศึกษาใส่เสื้อช็อปออกนอกสถานศึกษา และเปลี่ยนหัวเข็มขัดให้เหมือนกันทุกแห่งได้หรือไม่ เพื่อป้องเหตุทะเลาะวิวาทอีกทางหนึ่ง