"เชียร์ ฑิฆัมพร" เล่านาทีตัดสินใจ! เลิก "ไฮโซบิ๊ก" เรายังรักกัน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเดิม

Home » "เชียร์ ฑิฆัมพร" เล่านาทีตัดสินใจ! เลิก "ไฮโซบิ๊ก" เรายังรักกัน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเดิม
"เชียร์ ฑิฆัมพร" เล่านาทีตัดสินใจ! เลิก "ไฮโซบิ๊ก" เรายังรักกัน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเดิม

ยังคงได้รับกำลังใจทั้งจากแฟนคลับและคนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ทราบข่าวการตัดสินใจจบความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก ระหว่าง เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ และ ไฮโซบิ๊ก-ธนพนธ์ เบญจรงคกุล

โดยล่าสุด! ขณะที่นางเอกสาวคนดังเดินทางมาร่วมงาน Black Horse in the castle โดยร้าน James Boulangerie เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจถึงเรื่องนี้ รวมถึงเหตุที่สำคัญที่ทำให้ความรักไม่สามารถไปต่อ เพื่อให้หลายคนที่ยังเป็นห่วงได้คลายความสงสัย ก่อนจะทิ้งท้ายว่า แม้สถานะจะไม่เหมือนเดิม แต่เราก็ยังคงเป็นเพื่อน และมีมิตรภาพดีๆ ให้กันเสมอ

“การตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ตกลงร่วมกัน จริงๆ เป็นการคุยกันครั้งแรกถึงเรื่อความสัมพันธ์ ขอแก้ข่าวระหองระแหงก่อนหน้านี้นิดหนึ่งนะคะ เราไม่มีอะไรนะคะ เพราะจริงๆ ความสัมพันธ์ดีมาโดยตลอด ตอนคู่รักมาดเท่ ไม่ใช่คู่เรา ส่วนประเด็นอันฟอลโลว์เชียร์ไม่ได้คอมมิทในการฟอลโลว์สเตตัสกัน เชียร์ไม่ได้ฟอลโลว์เขาแต่ทีแรก เราคอนเนคกันทางเฟซบุ๊กอะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นประเด็นได้ยังไง แต่บอกไว้ก่อนตอนนั้นไม่ได้มีปัญหาความสัมพันธ์”

ยุติความสัมพันธ์ ?
“คือว่ามันถึงจุดหนึ่ง เชียร์ว่าเหมือนคนตรวจสุขภาพ เรายังคิดว่าเรายังแข็งแรง แต่เราต้องตรวจสุขภาพว่าจริงๆ เรายังโอเคไหม เช่นความสัมพันธ์ที่เดินทางมากว่า 4-5 ปี มันจะต้องไปอีกสเต็ปนึงละ ทีนี้เลยต้องตรวจสุขภาพเช่นกันว่าเรายังโอเคอยู่หรือเปล่า มันเป็นเรื่องของ 2 คน”

โรคแทรกซ้อนคืออะไร ?
“เชียร์ว่ามีทุกคู่แหละ ความพอดี ไม่พอดี มันมีบางจุดที่เราเคยก้าวข้ามผ่านมา ในความไม่พอดีบางอย่าง แต่ ณ วันนี้บางสิ่งที่เราปรับตัวมาแล้ว แต่การปรับมาแล้วในบางอย่าง พอมันยังไม่พอดีกันจริงๆ เหมือนเป็นจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ สะสม คู่เชียร์กับบิ๊กไม่ใช่คู่ที่ทะเลาะกันจุกจิก”

คนที่พูดก่อนคือเรา ?
“คือเชียร์ แต่มันเป็นการชวนคุยนะคะ เรามาดูกันหน่อยไหมว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

มันจึ้กตั้งแต่ตอนนั้นเลยไหม ?
“มันจึ้กตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่มันเป็นการตัดสินใจร่วมกันนะคะ”

เขาเข้าใจไหม ?
“อย่างที่บอก มันเป็นการตกลงร่วมกัน ว่าเราจะยังไงต่อดี คำตอบคือเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม คือระหว่างที่ผ่านมา มันไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งกันชัดเจน เหมือนความสัมพันธ์มันดำเนินมาเรื่อยๆ แต่มันจะมีสิ่งที่โฟกัสกันทั้งคู่ บางอย่างก็ไม่อยากเอามาหยุมหยิมให้อีกฝ่าย บางอย่างเขาก็ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ บางข้อพอเราไม่คุยกันแล้วมันเก็บไว้ เราท้้งคู่เลยเกิดจากการที่ไม่เป็นอะไร จริงๆ แล้วมันเป็นอะไร”

เป้าหมายชีวิตไม่ตรงกัน ?
“ไม่เชิงนะคะ เราเคยมองชีวิตคู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่แค่วันนี้ความสัมพันธ์ที่เราเดินมา พอเรามองย้อนกลับไปบางจุดมันไม่ได้ผ่านการพูดออกไป เราเก็บไว้ มารู้ตัวอีกทีความสัมพันธ์มันลดลงเรื่อยๆ ต่างคนต่างเก็บไว้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรรุนแรงเลย เป็นเรื่องของความเข้าใจของเราทั้งคู่จริงๆ เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน การคุยกันครั้งนี้เราคุยกันด้วยความรัก เชียร์ยังบอกเขาเลยว่า วันนี้เชียร์รักเขาไปแล้ว ยังไงเขาก็เป็นคนที่เชียร์รักอยู่ดี เพียงแค่ว่ามันไม่ได้เป็นไปในรูปแบบเดิม”

การแต่งงาน ?
“อันนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก การแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายของเชียร์ตั้งแต่แรก เราเคยคุยกันด้วยซ้ำว่าไม่อยากมีลูกนะ ถ้าเราอาจจะมีระยะเวลาของเรื่องอื่นมาจำกัด อันนี้น่าจะเป็นข้อบีบบังคับเรื่องไทม์ไลน์ แต่เราไม่มีเรื่องนี้ อาจจะเคยมีกระแสว่าเรามีปัญหากัน แต่ในความเป็นจริงคือไม่เคยมีปัญหาอะไร เราเป็นคู่ที่ใช้คำว่าเรียบง่าย”

เสียใจไหม ?
“เชียร์เสียดายอยู่แล้วแหละความสัมพันธ์ที่เราตั้งใจเดินมา มันเป็นความสัมพันธ์ที่เราก็มองว่าอยากให้มันไปนานๆ แต่ถามว่าเสียใจไหมก็คงไม่ใช้คำว่าเสียใจแล้วกัน ยังไงวันนี้เราก็ยังรักเขาอยู่ดี เขาก็ยังรักและหวังดีกับเราอยู่ดีแต่เพียงแค่มาเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง”

จะมีโอกาสกลับมามีไหม ?
“ถ้าพูดตรงๆ อันนั้นมันตอบไม่ได้ ณ วันนี้ก็เช่นกันมันอาจจะชัดเจนว่าเราเลือกที่จะเป็นเพื่อนกันจริงๆ”

มือที่ 3 ?
“ไม่มีค่ะ” 

คนรอบตัว ?
“ทุกคนก็แล้วแต่การตัดสินใจของเรา ทั้งฝั่งครอบครัวเรา ฝั่งครอบครัวบิ๊ก อย่างที่บอกว่าเชียร์ไม่ได้พูดอะไรจริงๆ มันตั้งแต่ตุลาคมแล้วด้วยซ้ำ เรื่องนี้มันคุยกันตั้งแต่ตุลาคมแล้ว แต่ว่ามันเป็นด้วยความเข้าใจกันจริงๆ เชียร์ถึงบอกว่ามันเป็นเหมือนสถานการณ์ที่ดีในการคุยกันครั้งนี้ด้วยซ้ำ”

อนาคต ?
“ตอนนี้ก็คงอยู่กับตัวเองก่อน ส่วนคำว่าคู่ชีวิต ถ้าจะมีหรือไม่มี มันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังเลยค่ะ มีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่มีก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เช่นกัน”

สาเหตุที่แท้จริง ?
“เชื่อว่ามันคงเป็นเรื่องราวของคนสองคนที่อาจจะไม่ได้มีความพอดีกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่อาจจะไม่ได้พอดีกันแค่นั้นเองค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ แต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรไม่ดีเลยในการใช้คำว่าเลิกรา ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ”

รีเทิร์น ?
“วันนี้คืออยากให้เคารพการตัดสินใจของเราทั้งคู่ อนาคตมันเป็นเรื่องของอนาคต กับเขาเจอหน้ากันได้ จริงๆ ยังมีทริปที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน มีความเป็นเพื่อนกันจริงๆ ส่วนที่พูดในยูทูบจริงๆ มันมีความหมายซ้อนความหมาย มันเหมือนเป็นความทรงจำในการเดินทางของเรา วันนี้คือมันไม่ได้จบแค่ซีซั่น มันไม่ได้จบแค่อีพี การเดินทางของคำว่า ที่ยักเอ้ย ในชีวิตจริงมันก็หยุดการเดินทางจริงๆ เหมือนบันทึกการเดินทางของเรา ยังดูได้ตลอด ไม่ได้ปิดช่อง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ