เชลซี ขึ้นนำ เอฟเวอร์ตัน ไปก่อนถึง 2 ครั้งทว่าสุดท้ายจบเกมด้วยการเสมอกันไป 2-2 ลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เหนื่อย

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เป็นคู่ส่งท้าย “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน

เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, เชา เฟลิกซ์ และไค ฮาเวิร์ตซ์ นำทัพ ด้านทีมเยือนมี อเล็กซ์ อิโวบี, ดไวท์ แม็กนีล และเดมาไร เกรย์ เป็นแกนหลัก

เกมในครึ่งแรกเป็นทาง เชลซี ที่ครองบอลมากกว่า รวมถึงมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ยังเจาะประตู เอฟเวอร์ตัน ที่รับกันได้เหนียวแน่นไม่ได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0

Soccer Football – Premier League – Chelsea v Everton – Stamford Bridge, London, Britain – March 18, 2023 Chelsea’s Joao Felix celebrates scoring their first goal with teammates REUTERS/Hannah Mckay EDITORIAL USE ONLY.

ครึ่งหลังนาที 53 เชลซี ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ หลุดมาทางซ้ายของกรอบเขตโทษทีมเยือน ก่อนจะเปิดเข้ากลางซึ่ง ไมเคิล คีน สกัดไม่ดีมาเข้าทาง เชา เฟลิกซ์ ที่ยืนอยู่ยิงด้วยซ้ายแบบเรียดๆ บอลเด้งเสาเข้าประตู

นาที 69 เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะได้ลูกเตะมุมฝั่งขวาแล้วเป็น ดไวท์ แม็กนีล เปิดมาให้ เจมส์ ทาคอฟสกี โหม่งชงไปให้ อับดูลาย ดูกูเร โขกจ่อจากระยะไม่ถึง 5 หลาซึ่งแม้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จะพยายามเคลียร์จากเส้นแต่บอลเข้าไปเต็มไปแล้ว

Chelsea’s Kai Havertz shoots to score from the penalty spot during the English Premier League soccer match between Chelsea and Everton at Stamford Bridge stadium in London, Saturday, March 18, 2023. (AP Photo/Kirsty Wigglesworth)

นาที 72 เชลซี มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ รีช เจมส์ ไปโดน เจมส์ ทาคอฟสกี สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น ไค ฮาเวิร์ตซ์ สังหารไม่พลาดกลับมานำ 2-1

นาที 89 กลายเป็น เอฟเวอร์ตัน มาตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ อับดูลาย ดูกูเร แทงทะลุช่องให้ เอลลิส ซิมส์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนเจ้าตัวจะยิงเร็วซึ่งแม้ เกปา อาร์ริซาบาลากา จะพยายามปัดแล้วแต่ปัดไม่ออก

หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้จบเกม เชลซี ทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 โดย “สิงโตน้ำเงินคราม” มีเพิ่มเป็น 38 คะแนนจาก 27 นัดยังอยู่อันดับ 10 ตารางโดยตามหลังอันดับ 4 อย่าง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถึง 11 คะแนนแม้แข่งน้อยกว่า 1 เกม ส่วน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” มีเพิ่มเป็น 26 คะแนนจาก 28 นัดขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ตาราง