‘เชฟชุมพล’ แจงดราม่า ปลากุเลาตากใบ ยันซื้อจริงร้านป้าอ้วน ไม่มีย้อมแมว การันตีเมนูเอเปคของไทยล้วน ทุกอย่างที่มาตรวจสอบได้หมด
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลิน ผู้รังสรรค์เมนูอาหารไทย ผ่านแนวคิด “อาหารอนาคต” ในงานกาลา ดินเนอร์ สำหรับผู้นำ APEC ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมี นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินรายการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องเมนูปลากุเลาตากใบ ที่จะเสิร์ฟในงานกาลาผู้นำเอเปค เชฟชุมพล กล่าวว่า เป็นปลากุเลาตากใบของป้าอ้วน 5 ดาว สำหรับคนที่ไปเขียนข่าว ตนว่าป้าอ้วนส่งและคัดเลือกมาอย่างเดียวจากตากใบโดยตรง ส่วนข้าวเพิ่งบรรจุให้วันนี้จากวิสาหกิจชุมชนอุ่มแสง ของลุงบุญมีที่ศรีสะเกษ
“ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุด ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่นำ มาผมอยากให้พี่น้องทั่วประเทศมีส่วนร่วม เพราะฉะนั้นอาจจะใช้มากใช้น้อย แต่การใช้ของเรา ผมอยากให้พี่น้องชาวไทยมีส่วนร่วม ยืนยันว่าเป็นปลากุเลาตากใบ ไม่มีย้อมแมว และปลากุเลาตากใบของป้าอ้วน ไซส์ 9 ขีด ราคา 1,540 บาท ไซส์ 1.2 กิโลกรัม ราคา 2,140 บาท ไม่รวมค่าส่ง สนใจไปหาได้เลย ซึ่งในตากใบมีหลายเจ้า แต่ที่ป้าอ้วนผมก็จะไว้ใจ ป้าอ้วนก็จะคัดให้พิเศษ” เชฟชุมพล กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพิเศษของปลากุเลาตากใบ เชฟชุมพล กล่าวว่า เนื้อจะมีความละเอียด ไม่เค็มมาก “ปลาเค็มส่วนใหญ่เค็มไปกลิ่นก็จะเบา ในมุมตน มันตุพอดี”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าวัตถุดิบทุกอย่างมาจากในประเทศหรือไม่ เชฟชุมพล กล่าวว่า ทุกอย่างไม่มีของต่างประเทศเลย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนทำในร้านอาหาร 10 กว่าปี แต่วันนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ซึ่งทุกอย่างที่มาตรวจสอบได้หมด แม้กระทั่งข้าว โทรคุยเลยว่าต้องข้าวใหม่นาปี หลายเจ้าที่ส่งเบอร์ 1-2 ของไทย แล้วเชฟจะใช้อะไร
แต่วันนี้ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่แม้กระทั่งจานชามที่จะใช้ กล่องไม้สักที่ใช้เสิร์ฟมาจากเชียงใหม่ ร้านพี่ดาว ที่ตนดีไซน์ไว้พิเศษ และในล็อบสเตอร์มังกร 7 สี กับปลาเก๋ามุกมาเป็นๆ จากภูเก็ต อันนี้ชัดเจน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องการตัดสิน APEC Future Food for Sustainability ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนและคนไทยทั่วประเทศ เชฟชุมพล กล่าวว่า เรื่อง Future Food มีทั้งหมด 21 ทีมจะตัดสินในวันที่มอบรางวัลประมาณวันที่ 15 พ.ย. อย่างน้อย 21 ทีม นำมาเสนอที่นี่
แต่ตรงนั้นต้องเรียนว่าตนและนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เราทำตัวนี้ขึ้นมาด้วยกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย เรื่องที่เราพัฒนาเรื่องของ Future Food ต่างๆ และแน่นอนเป็นเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งโปรเจคของการทำกาลาดินเนอร์ เป็นโปรเจคความยั่งยืนอยู่แล้ว ซึ่งจะมี Plant-base อะไรเข้ามา มีหลากหลายเข้ามา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำคู่ขนานกันไป อาจให้ชิมระหว่างประชุม
“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะเลือกตัวไหน ในระหว่างประชุม ความจริงโชว์เคสทั้งหมด 21 ตัว แต่น่าจะทราบใน 2-3 วันว่าจะเอาตัวไหน ระหว่างประชุมคงตั้งประสานหลายๆฝ่าย โดยเฉพาะศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็จะเป็นเจ้าภาพในการดูแลเรื่องอาหารทั้งหมด ก็ทำอาหารร่วมกัน ประสานร่วมกันกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีที่จะต้องดูตรงนั้น” เชฟชุมพล กล่าว