เมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปวิดิโอและภาพถ่ายบนท้องฟ้า ซึ่งได้ถ่ายติดแสงสีเขียวขนาดใหญ่บนท้องฟ้ากำลังพุ่งลงมายังพื้นดินคล้ายตาวตก บ้างก็ว่าเป็นอุกกาบาต ซึ่งพบในหลายพื้นที่ในจังหวักภาคกลางและภาคตะวันออกของไทย เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบรี ชลบุรี สมุทรสาคร นครนายก ปราจีนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา
- สาวโพสต์ วอนมิจฉาชีพคืนของมีค่า มูลค่าหลายแสนให้พ่อ
- สรุปปม ตั๋ววนคอนเสิร์ต Taylor Swift ผู้เสียหายถูกหลอกร่วมนับล้าน
- เปิดคลิปต้นเรื่อง 20 รุม 2 กะเทยไทย VS กะเทยปินส์ สุขุมวิท11
จากข้อมูลดังกล่าวเบื้องต้น NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า “คาดว่าเป็นดาวตกชนิดลูกไฟ” นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. กล่าวว่า ดาวตก (Meteorite) เกิดจากการที่วัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลก เสียดสีกับชั้นบรรยากาศ ที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่ ความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็มากตามไปด้วย
ซึ่งจากคลิปวิดีโอและภาพถ่ายดังกล่าว ดาวตกที่ปรากฏมีขนาดใหญ่ และสว่างมาก ความสว่างใกล้เคียงกับดาวศุกร์ จึงสันนิษฐานว่าเป็นดาวตกชนิดลูกไฟ (Fireball) ทั้งนี้ แสงสีเขียวของดาวตก สามารถบ่งบอกได้ว่ามีส่วนประกอบของธาตุนิกเกิล ซึ่งเป็นธาตุโลหะปัจจัยที่ส่งผลต่อสีของดาวตก เกิดจากเศษหินและฝุ่นของดาวหาง หรือดาวเคราะห์น้อย พุ่งเข้ามาชนกับชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ทำให้อะตอมของดาวตกเปล่งแสงออกมาในช่วงคลื่นต่าง ๆ เราจึงมองเห็นสีของดาวตกปรากฏในลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยได้แก่ องค์ประกอบทางเคมี โมเลกุลของอากาศโดยรอบในแต่ละวันจะมีวัตถุขนาดเล็กผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกเป็นจำนวนมาก เราสามารถพบเห็นได้เป็นลักษณะคล้ายดาวตก และยังมีอุกกาบาตตกลงมาถึงพื้นโลกประมาณ 44-48.5 ตันต่อวัน แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ห่างไกลผู้คน จึงไม่สามารถพบเห็นได้ ดาวตกนั้นจึงเป็นเรื่องปกติและสามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
ที่มา NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ