จ่าพิชิต เฉลยข้อสงสัย ปมเด็กหญิงถูกงูกะปะกัดที่มือ ทำไมถูก ‘งูกัด‘ ถึงต้อง ระบายความดัน พร้อมชี้แนะวิธีปฐมพยาบาล ถ้าถูกกัดห้ามกรีดแผลเอง!
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Tossaphon Srichompu ได้โพสต์ข้อความช่วยเหลือ บริจาคเกล็ดเลือด หลังน้องสาวถูก งูกะปะกัด ต้องเข้ารับการรักษา โดยการผ่าตัดระบายความดีนที่บริเวณมือ เพื่อให้เลือดไปหล่อเลี้ยงนิ้ว เบื้องต้นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว แจ้งว่าได้รับเกล็ดเลือดเพียงพอแล้วนั้น
ทางด้าน Drama-addict หรือนายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย ก็ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว หลังมีประเด็นที่คนสงสัยว่า ทำไมถูกงูกัดแล้วถึงมีปัญหาเรื่องความดันในมือสูง ต้องผ่าระบายความดัน
โดยจ่าพิชิตระบุว่า “เกิดจาก เวลาถูกงูกัด ถ้าพิษงูนั้น มันทำให้เนื้อเยื่อตาย มันก็จะทำให้เกิดการคั่งของสารน้ำ เลือด น้ำเหลือง หรือบริเวณจุดอื่น ๆ ในบริเวณกล้ามเนื้อ
ปรกติกล้ามเนื้อแต่ละมัดมันจะอยู่ใน ช่องกล้ามเนื้อ ที่มีเนื้อเยื่อที่เรียกว่า fascia หุ้มอยู่ ซึ่งถ้าในช่องกล้ามเนื้อ มันมีเลือด น้ำเหลือง สารน้ำที่เกิดจากการตายของกล้ามเนื้อมาคั่งอยู่ ก็จะทำให้ช่องกล้ามเนื้อมันบวม ความดันภายในช่องกล้ามเนื้อก็จะสูง อันนี้เรียกว่า compartment syndrome ซึ่งถ้าความดันในช่องกล้ามเนื้อมันขึ้นสูงมาก มันก็จะไปกดเส้นเลือด ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นลดลง
อย่างกรณีของเด็กหญิงรายนี้ คือถูกงูกัดที่บริเวณมือ ทำให้เกิดภาวะที่ว่านี้ตรงมือ และกดทับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงมือ นิ้ว ถ้ารักษาไม่ทัน เนื้อเยื่อส่วนนั้นก็จะตาย แต่ถ้าผ่าเพื่อระบายความดัน ทำให้เลือดกลับไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นได้ ก็มีโอกาสที่จะเก็บอวัยวะนั้นไว้ได้ครับ
ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นเสียอวัยวะได้หลังถูกงูกัด
ทั้งนี้ การปฐมพยาบาลด้วยตนเอง ถ้าถูกงูกัด ไม่ต้องขันเชนาะ หรือเอามีดกรีดแผล เพราะจะยิ่งทำให้แย่กว่าเดิม ให้เอาอะไรก็ได้แข็งๆ มาดามอวัยวะส่วนนั้นไว้ เหมือนดามคนที่แขนขาหัก แล้วให้คนไข้อยู่นิ่งที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด”