เจ้าแรกเมืองตรัง เลี้ยงนกกระทา ครบวงจร ยอดพุ่ง ขายรายได้ดี ครึ่งแสนต่อเดือน

Home » เจ้าแรกเมืองตรัง เลี้ยงนกกระทา ครบวงจร ยอดพุ่ง ขายรายได้ดี ครึ่งแสนต่อเดือน


เจ้าแรกเมืองตรัง เลี้ยงนกกระทา ครบวงจร ยอดพุ่ง ขายรายได้ดี ครึ่งแสนต่อเดือน

ตรัง พ่อแม่ลูก ชาวนาเมืองเพชร อ.สิเกา ช่วยกันเลี้ยงนกกระทาแบบครบวงจรขาย เป็นเจ้าแรกเมืองตรัง ยอดพุ่งผลิตไม่ทัน ทำรายได้ให้เดือนละกว่าครึ่งแสน ทั้งขายไข่ เนื้อ ลูกนก แม่พันธุ์นก

31 ต.ค. 65 – ที่ฟาร์มนกกระทา “สามกอ ด.เดียว” ตั้งอยู่หลัง รพ.สต.นาเมืองเพชร หมู่ที่ 5 บ้านไทรย้อย ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง

นายโกมล และนางดรุณี ไชยบุตร สองสามีภรรยา ซึ่งมีอาชีพเป็นเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา และทำการเกษตรผสมผสาน ได้ใช้เวลาว่างทำฟาร์มเลี้ยงนกกระทาแบบครบวงจรขายเป็นเจ้าแรกในเมืองตรัง มาอย่างยาวนานประมาณ 20 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2538

ช่วงแรกๆ ตั้งใจจะทำเป็นอาชีพเสริม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นอาชีพหลักเพิ่มอีก 1 อาชีพ โดยทั้งสองจะใช้เวลาในภาคเช้าของทุกวัน ในการทำความสะอาด ให้อาหาร เก็บไข่ ฟักไข่ และดูแลอนุบาลลูกนกที่ฟักใหม่ในการนำเข้าเตาอบ

ซึ่งทั้งหมดทำด้วยสองมือจากภูมิปัญญาส่วนตัว ทั้งกรงเลี้ยง และตู้อบ ที่ทำจากเศษไม้ที่หาได้ง่ายในพื้นที่ ส่วนคอกเลี้ยงทำเป็นคอนโด 5 ชั้น ด้วยเศษไม้และตาข่ายพลาสติกง่ายๆ แต่ทนทาน ใช้ได้ยาวนาน ในราคาถูกเพียงชุดละประมาณ 4,500 บาท ซึ่งหากซื้อที่มีขายยกชุดตามท้องตลาด จะตกราคาชุดละ 6,000 บาทเลยทีเดียว

ทั้งสองสามีภรรยา เล่าว่า เดิมทีพวกตนเลี้ยงนกกระทาจำนวนมากถึง 10,000 ตัว สร้างรายได้ให้อย่างงดงาม จนสามารถส่งลูกสาวเรียนหนังสือจบที่ประเทศจีนไปแล้ว 1 คน เพราะเป็นการเลี้ยงครบวงจร ทั้งการขายไข่ การเพาะฟักขยายพันธุ์นก การขายลูกนก การขายแม่พันธุ์ และการขายเนื้อ

แต่ปัจจุบันได้ลดการเลี้ยงนกกระทาเหลือประมาณ 3,000 ตัว เพื่อหันมาผลิตแม่พันธุ์ส่งขายแทน ทั้งนี้ จากไข่ที่เก็บได้วันละประมาณ 1,450 ฟอง ส่วนหนึ่งจะเอาไปขาย แต่อีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ฟักเพื่อขยายพันธุ์ เพราะตอนนี้มีลูกค้าที่สั่งซื้อแม่พันธุ์นกกระทาเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งในจังหวัดตรัง และใกล้เคียง โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด และช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ มีคนสั่งจองซื้อแม่พันธุ์จำนวนมาก เพื่อนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมหารายได้เพิ่ม จนทางฟาร์มผลิตแม่พันธุ์ไม่พอส่งขาย

สำหรับราคาไข่นกกระทา ขายส่ง 100 ฟองขึ้นไป ฟองละ 1 บาท, ขายปลีก 100 ฟอง ราคา 120 บาท หรือหากซื้อ 50 ฟอง ราคา 60 บาท ส่วนลูกนก อายุ 7 วัน ขายตัวละ 7-8 บาท แม่นก (แม่พันธุ์) อายุ 45 วัน ขายตัวละ 25 บาท โดยนำไปเลี้ยงต่อ 10 วัน ก็จะออกไข่ แต่ถ้าแม่นกอายุมากกว่า 45 วัน ขายตัวละ 30 บาท โดยนำไปเลี้ยงต่อแค่ 1 สัปดาห์ ก็จะออกไข่ หรือบางตัวก็เริ่มออกไข่ไปแล้ว

ขณะที่นกเนื้อ ขายส่ง กก.ละ 130 บาท ขายปลีก ตัวละ 20-30 บาท ทั้งหมดนี้สร้างรายได้ให้เดือนละประมาณ 54,000 บาท พร้อมทั้งเปิดฟาร์มให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงนกกระทาด้วย หรือหากใครซื้อแม่พันธุ์ไป ทางฟาร์มก็จะให้ความรู้ในการเลี้ยงไปด้วย จะไม่ขายไปให้เฉยๆ
นายโกมล ไชยบุตร เจ้าของฟาร์ม บอกว่า

สำหรับชื่อฟาร์มนกกระทา “สามกอ. ด.เดียว” เป็นชื่อที่สื่อถึงกิจการในครอบครัว คือ พ่อ แม่ ลูก โดย กอ.ไก่ ประกอบด้วย โกมล ผู้เป็นพ่อ, กมลวรรณ และกัญญาพัชร 2 ลูกสาว ซึ่งดูแลเพจ/ไอที ส่วน ด.เดียว คือ ดรุณี ผู้เป็นแม่ ทั้งนี้ แต่ละเดือนเฉพาะแม่พันธุ์นกกระทาขายได้ประมาณ 25,000 ตัว

จึงต้องเร่งฟักเร่งขยายพันธุ์เพื่อรองรับลูกค้าที่สั่งจอง โดยแต่ละรุ่นใช้เวลาฟักประมาณ 17-18 วัน ก็ออกเป็นตัว ส่วนปัญหาที่ประสบขณะนี้คือ อาหารปรับขึ้นกว่า 100 บาทต่อกระสอบ จากเดิมกระสอบละ 470 บาท เป็นกระสอบละ 595 บาท ทำให้ต้องปรับราคาไข่นกขึ้นเป็นฟองละ 1 บาท

ผู้สนใจสั่งซื้อ หรือศึกษาการเลี้ยง ติดต่อได้ที่เพจ “ฟาร์มนกกระทาสามกอ.ด.เดียว” หรือโทรศัพท์.(082) 431-9290

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ