เจ้าหนี้ดอกโหดร้อยละ 60 ตามล่าต้องพาลูกหนีตายนอนบนสองแถว

Home » เจ้าหนี้ดอกโหดร้อยละ 60 ตามล่าต้องพาลูกหนีตายนอนบนสองแถว


เจ้าหนี้ดอกโหดร้อยละ 60 ตามล่าต้องพาลูกหนีตายนอนบนสองแถว

ร้องสายไหมต้องรอด ถูกเจ้าหนี้ดอกโหดตามล่า ต้องพาลูกหนีตาย นอนบนรถสองแถว หมดทางออก เกือบคิดสั้นทั้งครอบครัว ลูกพูดสลดให้พาไปขายไตช่วยใช้หนี้

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.มีนบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พา นางบุญตรี อายุ 45 ปี ผู้เสียหายถูกเซลล์ปล่อยเงินกู้ดอกโหด ร้อยละ 60 ตามล่า หลังค้างส่งดอกเพียง 1 สัปดาห์ ต้องพาลูก 2 คน หนีตาย ใช้ชีวิตบนรถสองแถว ขับไปนอนตามวัด ก่อนตัดสินใจชวนกันไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่เมื่อคืนนี้ทางเพจสายไหมต้องรอด เข้าช่วยเหลือได้ทัน

นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้หลังจากได้รับการขอความช่วยเหลือ รู้สึกสงสารครอบครัวนี้ จึงได้เดินทางไปพูดคุย จนรับทราบปัญหาและทำความเข้าใจ ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายสบายใจขึ้น และเลิกคิดสั้น วันนี้จึงตัดสินใจพาผู้เสียหายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาหาทางออก เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเจตนาที่จะโกง แต่เป็นเจ้าหนี้มีการคิดอัตราดอกเบี้ย ที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงอยากฝากถึงเจ้าหนี้ให้ช่วยผ่อนผันและเข้ามาพูดคุย ตนยืนยันว่าเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่อยากให้มีความเป็นมนุษยธรรมกับลูกหนี้ด้วย

ทางด้าน นางบุญตรี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตนกู้เงินมาทั้งหมด 7 เจ้า ติดต่อไปตามใบปลิวหน้าบ้าน โดยกู้มาเจ้าละ 5,000 – 10,000 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 60 โดยจ่ายเจ้าละ 200 บาท ทั้งหมด 7 เจ้า รวมต้องจ่าย 1,400 บาทต่อวัน จนกว่าจะมีเงินต้นมาคืนเต็มจำนวน ที่ต้องกู้เพราะเงินไม่พอ ตนทำงานเย็บผ้ามีงานทุกวัน ส่วนสามีขับรถสองแถว ก็พอมีรายได้ ที่ผ่านมาก็จ่ายตลอด

จนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนหาเงินไม่ทันจึงทำให้ไม่มีเงินใช้หนี้ แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ยอมโทรมาข่มขู่ ขับรถมอเตอร์ไซค์มาดักหน้าบ้าน เอาน้ำฉีดเข้าไปในบ้าน และยังขับรถไปดักลูกของตนที่โรงเรียน พวกตนเกิดความกลัว ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ใช้ชีวิตอยู่บนรถสองแถว ขับตระเวนไปนอนตามวัด และปั๊มน้ำมัน นอกจากเป็นหนี้ที่กู้มาแล้ว ยังค้างจ่ายค่าเช่าบ้านอีก 1 เดือน ซึ่งต้องจ่ายเดือนละ 5,000 บาท ชีวิตลำบากมากถึงขั้น ลูกชาย เคยบอกว่า “แม่พาหนูไปขายไตหน่อย” เพื่อที่จะได้มีเงินมาใช้หนี้

นางบุญตรี กล่าวอีกว่า เมื่อไปขอความช่วยเหลือใครไม่ได้ ไม่มีทางออกแล้วมืดแปดด้าน จึงตัดสินใจกันว่าจะไปกระโดดน้ำ ตนถามลูกและสามีทุกคนเงียบไม่มีคำตอบ ตนจึงบอกไปว่า “ให้ลูกอยู่กับพ่อ ส่วนแม่จะไปกระโดดคนเดียว” และตนได้โทรประสาน เพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือมารับลูกของตนทั้ง 2 คน ไปดูแลต่อ

ส่วนในวันนี้ที่ตนมา สน.มีนบุรี เพื่อให้ตำรวจช่วยพูดคุยกับเจ้าหนี้ให้ โดยที่ตนไม่ประสงค์แจ้งความดำเนินคดี และยินดีใช้หนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 กล่าวว่า ตำรวจจะประสานเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งหมด เพื่อหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ซึ่งส่วนไหนที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามปกติ แต่ส่วนไหนที่ผิดกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ทวงหนี้ , พ.ร.บ.เรียกเก็บอัตาดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ส่วนเรื่องของความปลอดภัยของผู้เสียหาย ตำรวจจะส่งรถสายตรวจไปดูแลที่บ้านพัก หลังจากที่ผู้เสียหายไม่สามารถเข้าบ้านพักได้ เนื่องจากเจ้าหนี้ไปดักรอที่บ้านพัก ส่วนการค้างค่าเช่าบ้านจนถูกเจ้าของบ้านให้ย้ายออก ตนจะส่งตำรวจเข้าไปเจรจา เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการผ่อนผัน ให้ผู้เสียหายอยู่ต่อ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ