ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เจ้าสาวโดนสาดสีใส่ชุดในงานแต่งงาน ที่แท้ฝีมือแม่เจ้าบ่าววางแผน แถมยังตามหลอกหลอนไปหยุด ใครรู้ก็สงสารทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว
เว็บไซต์ New York Post รายงานว่า ความฝันของคู่รักที่จะได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบต้องพังทลายลง เมื่อมีรายงานว่าครอบครัวของเจ้าบ่าวพยายามทำลายวันสำคัญของพวกเขา
ความสัมพันธ์ระหว่างอเล็กซานดรากับแฟนของเธอเป็นเหมือนเทพนิยาย ฝ่ายชายเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย ในเมืองคิวเดด ออบิกอน ของรัฐโซโนรา ประเทศเม็กซิโก ทางครอบของเขาจึงใฝ่ฝันอยากให้ลูกชายแต่งงานกับหญิงสาวที่มีฐานะเช่นเดียวกัน
แต่อเล็กซานดราไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ทำให้ครอบครัวของฝ่ายชายสงสัยว่าเธอมาคบกับเขาเพียงเพื่อเงินเท่านั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะในชีวิตคู่ของทั้งสองคน
เมื่อครอบครัวของเขารู้เรื่องก็พยายามจะทำทุกทางเพื่อขัดขวางความสัมพันธ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการคุกคาม พูดจาข่มขู่ และยังทิ้งเช็คเปล่าไว้ให้เพื่อติดสินบนให้เธอเลิกกับเขา
แต่หญิงสาวไม่ยอมแพ้และพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าเธอไม่ใช่พวกนักขุดทองหวังรวยทางลัด แต่สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อพวกเขาประกาศหมั้นหมายกัน
หลังจากได้ยินข่าวการหมั้นหมายของลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็แกล้งทำเป็นเกิดอาการหัวใจวาย ทั้งยังตำหนิว่าทั้งสองเป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่เกิดปัญหาสุขภาพ พร้อมเรียกร้องให้ลูกชายของเธอจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ อเล็กซานดราและคู่หมั้นได้จัดงานวิวาห์กันขึ้น ซึ่งครอบครัวของฝ่ายชายปฏิเสธไม่ไปร่วมงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
ในช่วงพิธีส่งตัวเจ้าสาว ขณะที่อเล็กซานดราจับมือคุณพ่อของเธอเดินมาตามทางเดินด้านหน้าโบสถ์ อยู่ ๆ ชุดเจ้าสาวสีขาวงดงามของเธอก็ถูกสาดกระจายเต็มไปด้วยสีแดง
แขกเหรื่อในงานต่างพากันกรีดร้องตกใจ ซึ่งในตอนแรกบางคนก็เข้าใจว่าเป็นเลือด ทางเจ้าสาวรีบหมุนตัวดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก่อนที่ต่อมาจะสืบทราบว่า ทางแม่ของเจ้าบ่าวได้จ้างคนมาให้สาดสีแดงใส่เธอ
ณ ตอนนั้น เจ้าสาวพยายามตั้งสติแม้ว่าจะตกใจและกลัวมาก ในขณะที่เจ้าบ่าว เพื่อน ๆ และครอบครัวของเธอต่างก็ช่วยเป็นกำลังใจให้
อเล็กซานดราตัดสินใจกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรียาว และกลับเข้ามาร่วมพิธีต่อตามแพลนเดิม ไม่การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ
เมื่อทางแม่เจ้าบ่าวทราบเรื่องก็ไม่ยอมแพ้งัดแผนสอง โดยทำเป็นส่งเบาะแสแบบนิรนามแจ้งไปยังตำรวจว่า มีการใช้ยาเสพติดในงานแต่งงานแห่งนั้น ทำให้ตำรวจรุดไปตรวจสอบทันที แต่ภายหลังจากตรวจค้นก็ไม่พบอะไร และไม่มีใครถูกจับ ในที่สุดงานแต่งงานก็ผ่านพ้นไปได้สำเร็จ
แต่ครอบครัวของฝ่ายชายยังไม่ยอมจบ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางไปฮันนีมูน ครอบครัวของเจ้าบ่าวได้ซ่อนพาสปอร์ตและวีซ่าของเขาไว้ ทั้งยังพยายามจะติดสินบนบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเพื่อทำลายการเดินทาง แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไปฮันนีมูนกันได้
วีรกรรมของครอบครัวฝ่ายชายเป็นที่รับรู้กับในชุมชนที่พวกเขาอาศัย ชาวเมืองหลายคนไม่ชอบและพากันเกลียดชัง แต่ทางครอบครัวของเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าเดือดร้อนใด ๆ
เรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาเปิดเผยทาง Reddit และถูกแชร์ไปบน Twitter จนกลายเป็นไวรัล ผู้ใช้โซเชียลต่างพากันเข้าไปแสดงความตกตะลึง และแสดงความเห็นใจคู่รักคู่นี้
เพราะเรื่องราวของพวกเขาราวกับพล็อตในละครน้ำเน่า และไม่เข้าใจว่าทำไมครอบครัวของฝ่ายชายถึงคิดร้ายได้ขนาดนั้น และหวังว่าทั้งสองจะจัดการทำอะไรอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยในอนาคต