เพียงเพราะความขัดแย้งเรื่องเงิน เจ้าสาวจึงถูกฆาตกรรมในคืนวันแต่งงาน กระทั่ง 8 ปีต่อมา โฉมหน้าฆาตกรจึงถูกเปิดเผย รู้ว่าเป็นใครทำเอาหลายคนช็อก

งานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต เจ้าสาวและเจ้าบ่าวทุกคนตั้งตารอช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น แต่เมื่อหลายปีก่อนกลับเกิดโศกนาฏกรรมอันเลวร้าย ที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในคืนวันแต่งงาน

ตามรายงานพบว่า นายหนิง (นามสมมุติ) เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัว เป็นผู้ชายที่อ่อนโยน เมื่ออายุ 24 ปี เขาไปทำงานที่ปักกิ่ง แต่หลังจากทำงานหนักมาหลายปีก็ยังไม่มีเงินเก็บ ประกอบกับสถานการณ์ครอบครัวที่ยากลำบาก จึงยังไม่ได้แต่งงานแม้จะอายุ 30 ปีแล้ว พ่อแม่ของเขากังวลอย่างมากเกี่ยวกับลูกชายของพวกเขา พวกเขาพยายามทุกอย่างเพื่อหาคู่ที่เหมาะสมสำหรับลูกๆ

ขณะนั้นลูกพี่ลูกน้องของหนิงมาเยี่ยมและบอกว่าในหมู่บ้านมีหญิงสาวโสดคนหนึ่งอายุประมาณหนิง เธอคนนี้คือนางสาวหวัง (นามสมมุติ) วัย 28 ปี เป็นคนน่ารัก และครอบครัวมีฐานะดี เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เธอยังไม่พบคนที่เธอเหมาะสม เพียงเพราะเธอเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่จึงมีข้อกำหนดต่างๆ สูงมาก

ครอบครัวหวังระบุว่า พวกเขาจะไม่ให้ลูกสาวแต่งออกไปอยู่บ้านสามี แต่ขอให้ลูกเขยย้ายมาอาศัยอยู่กับพวกเขาแทน อย่างไรก็ตาม ใครที่ต้องการแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลหวังจะต้องสร้างบ้านให้ลูกสาวของพวกเขา และต้องสร้างใกล้กับบ้านของครอบครัวเจ้าสาวด้วย

พ่อแม่ของหนิงจึงเกิดไอเดียจับคู่ลูกสาวตระกูลหวังให้ลูกชายของพวกเขา หลังจากหารือกันทั้งสองครอบครัวก็ตกลงกันได้ หนิงต้องใช้เงินออม 30,000 หยวน (ประมาณ 1.5 แสนบาท) เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ถัดจากบ้านของตระกูลหวัง และอาศัยอยู่ที่นั่นกับภรรยาของเขา แม้ว่าหนิงจะไม่ปฏิเสธคำขอ แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ในใจ รู้สึกไม่พอใจต่อครอบครัวคู่หมั้นมาก ทั้งสองฝ่ายมักจะทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้

หนึ่งปีผ่านไปในพริบตา และบ้านใหม่ก็เสร็จสมบูรณ์ภายใต้แรงกระตุ้นของทั้งสองครอบครัว ในที่สุดวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2544 พวกเขาก็แต่งงานกัน หมู่บ้านแห่งหนึ่งในฉงชิ่งได้รับการตกแต่งด้วยโคมไฟสว่างไสว แขกและชาวบ้านต่างมาร่วมงานแต่งกันเป็นจำนวนมาก แต่ในคืนเดียวกันนั้นเอง ตำรวจท้องที่กลับได้รับข่าวว่าเจ้าสาวถูกฆาตกรรม ศพของเธอถูกพบในบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ผลชันสูตรพบว่าเสียชีวิตจากการถูกรัดคอ

อย่างไรก็ตาม เจ้าบ่าวกลับไม่ปรากฏตัวหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม ตำรวจยืนยันทันทีว่าฆาตกรคือเจ้าบ่าว และเริ่มออกตามล่านายหนิง อย่างไรก็ดี 8 ปีผ่านไป กลับไม่มีข่าวคราวใดๆ จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายปรากฏตัวที่โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองจินเจียง เพื่อค้นหาฆาตกรที่สังหารเจ้าสาวในคืนแต่งงาน พร้อมกับคำถามแรกที่กล่าวว่า “หนิง คุณจำคืนแต่งงานของคุณเมื่อ 8 ปีที่แล้วได้ไหม” เมื่อได้ยินนายหนิงก็สั่นกลัวจนล้มลง

ตำรวจเริ่มเปิดการสอบสวนทันทีหลังการจับกุม หนิงยอมรับว่าเมื่อ 8 ปีก่อนเขาทำร้ายภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน พร้อมทั้งสารภาพเหตุผลที่ทำเอาทุกคนตะลึง ปรากฎว่าในคืนวิวาห์เจ้าสาวร้องขอให้สามีมอบเงินให้เธอ 40,000 หยวน (ประมาณ 2 แสนบาท) หากเขาต้องการพักร่วมห้องกับเธอ หากไม่มีเงินนั้นเธอจะไม่ยอมมีเซ็กซ์ด้วย

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหนิงก็รู้สึกเสียใจและโกรธมาก เพราะเขาใช้เงินเก็บทั้งหมดสร้างบ้านใกล้บ้านภรรยาไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอยังร้องขอเช่นนี้อีก เขาโกรธมากจนรัดคอและฆ่าภรรยาในบ้านหลังใหม่ ในตอนแรกเขาตั้งใจจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาก็ปรึกษาพ่อ และพ่อก็เป็นคนช่วยลูกชายหนีด้วยเงิน 1,000 หยวน (ประมาณ 5 พันบาท)

ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา หนิงเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน และย้ายไปอยู่ฝูเจี้ยนเพื่อทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ที่นี่เขาไม่เพียงแต่กลายเป็นคนทำงานที่เป็นแบบอย่างเท่านั้น แต่ยังได้แต่งงานและมีลูกแล้วด้วย เขาคิดว่าชีวิตคงจะสงบสุขไปจนวันที่ตำรวจมาจับกุม ในที่สุดก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่า

เมื่อเรื่องราวปิดฉากคดีฆาตกรรมในคืนแต่งงานเมื่อ 8 ปีก่อนถูกเผยแพร่ออกมา หลายคนเสียใจกับเรื่องราวการจับคู่แต่งงาน ที่ส่งผลให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องจบชีวิตลง และทำลายอนาคตของผู้ชายอีกคนหนึ่ง โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง