ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา Vogue Thailand ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ 3 ดีไซเนอร์ไทย ผ่านทางช่อง YouTube ของ Vogue Thailand ในหัวข้อ #VogueInConversationWith เปิดห้องสนทนากับ 3 ดีไซเนอร์ไทย SIRIVANNAVARI BANGKOK, ASAVA และ VICKTEERUT ซึ่งเป็นการสนทนากับดีไซเนอร์ไทย เรื่องวงการแฟชั่นกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด
โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ได้ร่วมพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้ ร่วมกับ หมู พลพัฒน์ อัศวะประภา จาก ASAVA และ อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ จาก VICKTEERUT โดยมี กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร โว้ก (Vogue) ประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์ออนไลน์
โดยบางช่วงบางตอนของการสัมภาษณ์นั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตรัสถึง สถานการณ์โควิด-19 กับการดำเนินงานกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่โควิดระบาดรอบแรก ทุกคนตกใจและงงว่าคืออะไร สถานการณ์มันใหม่สำหรับพวกเรามาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ท่านหญิงพบกับวิกฤติรอบนั้น นอกจากจะตกใจ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนแล้ว ก็ยังมีความกังวลในหลายๆส่วน ในส่วนครีเอทีฟ ค่อนข้างจะเหนื่อย มีเรื่องที่คิดงานไม่ออกบ้าง แต่ว่ายังมีสติในการที่จะบอกลูกน้องทุกคนว่ามันคงไม่จบง่ายๆ แน่ๆ
โดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI ไม่ได้ปลดพนักงานออก และไม่ได้ลดเงินเดือนด้วย ยกเว้น 3 เดือนแรกที่เป็นผู้บริหารทั้งหมด รวมถึงตัวท่านหญิงเอง จะไม่รับเงินเดือนเลยตลอด 3 เดือน จะเก็บเงินเดือนนี้มอบให้กับพนักงาน ส่วนพนักงานท่านใดที่ยังไม่มีเคยได้รับการปรับเงินเดือนเลย ก็จะมีการปรับเงินเดือน แต่ไม่มีโบนัสแน่ๆ เพราะเจอปัญหากันจริงๆ
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์นั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ยังพระราชทานกำลังใจแก่ประชาชนชาวไทยในสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า
ไม่มีใครที่อยากให้มีโรคนี้มันเกิดขึ้น แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเฉพาะประเทศเราประเทศเดียว มันไม่ได้เป็นเฉพาะกลุ่มแฟชั่นกลุ่มเดียว มันเป็นสถานการณ์ที่มันไม่ได้เลือกเพราะชนชั้นด้วยอันนี้คืออย่างหนึ่ง มันเป็นทุกคนจริงๆ สิ่งที่ท่านหญิงต้องย้ำอีกครั้งหนึ่ง อยากจะฝากกับทุกคนก็คือว่า หนึ่ง คือ ขอให้ทุกคนมีสติ ใจเย็นๆ แล้วก็ทำให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรงที่ดีมีสุขภาพใจ เราต้องแข็งแรง สุขภาพจิตเราแข็งแรง สร้างพลังงานบวกให้กับตัวเอง สร้างพลังงานสุขให้กับตัวเอง หลังจากนั้นเราค่อยๆ เมื่อเรามีความสุขเป็นเซนเตอร์ของเราแล้ว เราก็ค่อยๆ แบ่งให้กับทีมงานทั้งหมด
ทุกคนลำบากกันหมด แม้แต่ตัวท่านหญิงก็ลำบาก แต่ท่านหญิงก็เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนมันต้องมีความสุขให้ได้ ทุกคนต้องอยู่กับมัน และทุกคนทำอย่างไรให้ก้าวออกไปสร้างพลังให้กับทุกคน ท่านหญิงเชื่อว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น เราเศร้าได้แต่อย่านาน โลกมันยังไม่แตก เราทำงานกันต่อไป”