เจ้าบ่าวอยากสร้างสรรค์ จัดขันหมากสู่ขอสาว แต่กลายเป็นดราม่าเพราะ "ชุดกบ"

Home » เจ้าบ่าวอยากสร้างสรรค์ จัดขันหมากสู่ขอสาว แต่กลายเป็นดราม่าเพราะ "ชุดกบ"
เจ้าบ่าวอยากสร้างสรรค์ จัดขันหมากสู่ขอสาว แต่กลายเป็นดราม่าเพราะ "ชุดกบ"

งานหมั้นและงานแต่งงานถือเป็นโอกาสสำคัญของคู่รักทุกคู่ และรวมทั้งครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุนี้ ในทุกขั้นตอนจึงต้องมีการเตรียมการที่เหมาะสมและเคร่งครัดที่สุด แต่ในปัจจุบันด้วยความทันสมัยของโลกที่เปลี่ยนไป และด้วยความอ่อนเยาว์ของคู่บ่าวสาว หลายคู่จึงมักต้องการให้วันแห่งความสุขของพวกเขามีสิ่งพิเศษ เพื่อสร้างความประทับใจทิ้งไว้เป็นความทรงจำ จึงตัดสินใจ “เปลี่ยนแปลง” ขั้นตอนบางส่วน เพื่อทำให้งานแต่งงานน่าจดจำยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหลายรูปแบบที่ได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้น แต่ในทางกลับกัน ก็มีอีกหลายรูปแบบที่ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งมากมาย เช่นเดียวกับงานแต่งงานของคู่รักในประเทศเวียดนาม ที่ภาพและคลิปวิดีโอถูกแชร์ลงฟอรั่มโซเชียลเน็ตเวิร์กเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา งานแต่งงานที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์แต่กลับต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

โดยขบวนขันหมากที่จัดมาสู่ขอเจ้าสาวนั้น แม่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวจะเตรียมของหมั้นมาตามธรรมเนียม แต่แทนที่ผู้ร่วมขบวนจะสวมกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต หรือการแต่งกายที่ดูสุภาพตามโอกาสของงาน ทั้งแก๊งกลับแต่งกายด้วยชุด “กบเขียว” แม้แต่คนนำขบวนก็ไม่เว้น เขาสวมหน้ากากที่ค่อนข้างแปลก มีเพียงเจ้าบ่าวเท่านั้นที่ยังคงรักษาความจริงจัง โดยสวมชุดอ่าวหญ่ายและถือดอกไม้แบบเป็นทางการ

ทันทีที่ภาพเหล่านี้ปรากฏบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างร้อนแรในชุมชนออนไลน์ทันที วันสำคัญของคู่รักคู่นี้ต้องเผชิญกับความคิดเห็นที่หลากหลายของชาวเน็ต บางส่วนยกย่องความคิดสร้างสรรค์ของครอบครัวเจ้าบ่าว ที่ให้คนถือสินสอดทองหมั้นสวมชุดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมารับเจ้าสาว เนื่องจากเป็นวันที่มีความสุขสำหรับคู่รัก พวกเขาสามารถแสดงออกได้ตามต้องการ ตราบใดที่พวกเขารู้สึกมีความสุข

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนคอมเมนต์ตรงกันข้ามกับความคิดเห็นข้างต้น โดยคนส่วนมากแสดงออกว่าค่อนข้างเบื่อหน่ายกับความคิดและการแสดงออกของเจ้าบ่าวแบบนี้ เนื่องจากสำหรับบางคนงานแต่งงานเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดในชีวิต ทุกขั้นตอนจึงต้องจัดเตรียมและจัดขึ้นตามประเพณี และไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหน้าตาชื่อเสียงของญาติๆ ทั้งสองฝ่ายด้วย

โดยเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าไม่ควรเลอะเทอะหรือ “แต่งตัวเล่นๆ” เพราะเมื่อเจ้าบ่าวไปยกขันหมากไปสู่ขอภรรยา ก็ควรแสดงความเคารพครอบครัวของเจ้าสาวให้มากกว่านี้ ในขณะที่ครอบครัวของเจ้าสาวสวมชุดอ่าวหญ่ายที่สวยงามและเรียบร้อยมาก ครอบครัวของเจ้าบ่าวสวมชุด “กบเขียว” ที่ไม่เหมาะกับบรรยากาศงานแต่งงาน ค่อนข้างเหมือนเด็กเล่นสนุกไปเรื่อย

“นี่เรียกว่าเป็นเรื่องตลกเหรอ ในงานแต่งงานที่สำคัญมากเนี่ยนะ สงสัยจังว่าครอบครัวเจ้าบ่าวคิดอย่างไรอยู่?”

“บางทีฉันอาจจะเป็นคนเดียวที่รู้สึกไม่มีความสุข พูดตามตรง ถ้าครอบครัวเจ้าบ่าวแต่งตัวแบบนี้ในงานแต่งงานของฉัน ฉันจะหันหลังกลับทันที”

ทั้งนี้ ตามรายงานในภายหลังพบว่า เจ้าบ่าวอายุ 26 ปี และเจ้าสาวอายุ 19 ปี อาศัยอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ ทั้งคู่คบหากันเมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ได้จัดงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเติ่นปู๋ จนกลายเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ ในเรื่องนี้เจ้าบ่าวชี้แจงว่า “ก่อนหน้านี้มีพิธีแต่งงานทางตะวันตกโดยมีแขกกลุ่มหนึ่งสวมชุดซูเปอร์ฮีโร่ ผมอยากจะทิ้งร่องรอยพิเศษไว้ในวันสำคัญของผมแบบนั้นบ้าง”

ด้วยความหลงใหลในความเป็นเอกลักษณ์ เจ้าบ่าวจึงเขาก็เข้าโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อค้นหาสถานที่เช่าเครื่องแต่งกาย จากนั้นจึงติดต่อไปสั่งของก่อนวันแต่งงานหนึ่งเดือน เขา “ลงทุนและพิถีพิถันมาก” ไปที่ร้านเพื่อดูสินค้าและตรวจสอบคุณภาพ แต่เนื่องจากมาสคอตกบเขียวมีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับ 7 ชุด เขาจึงรีบนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 3-4 ชุด

ทั้งนี้ เจ้าบ่าวยังชี้แจงประเด็นความเข้าใจผิดๆ ด้วยว่า หลังจากทำพิธีและต้อนรับเจ้าสาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสำหรับขั้นตอนต่อไปของงานแต่งงาน “ความคิดเห็นเชิงลบมากมายทำให้เรารู้สึกเศร้าในตอนแรก แต่พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างมีความสุขและสบายใจ นั่นคือสิ่งที่เราใส่ใจมากที่สุด”

ขณะที่ทางด้านเจ้าของบริษัทด้านการเช่ามาสคอตในโฮจิมินห์ซิตี้ รู้สึกประหลาดใจเมื่อเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าเช่ามาสคอตเพื่อใช้ในพิธีแต่งงาน เพราะโดยปกติแล้วเครื่องแต่งกายเหล่านี้มักจะถูกนำไปใช้เพื่อให้กำลังใจ หรือดึงดูดความสนใจในงานเปิดตัว หรือในโอกาศวันเกิด การประชุม งานแสดงสินค้า ฯลฯ

“ดูไร้สาระ แล้วก็ไม่สนุก จะเพราะเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แต่นี่มีญาติๆ เพื่อนๆ และแขกจากหลายๆ ที่ที่เชิญมา ซึ่งกำลังจับตามองอยู่ อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ตอนนี้ทุกคนคงบอกว่าเป็นตัวตลก”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ