(1).jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
ลักเซมเบิร์กเศร้า สูญเสีย “เจ้าชายเฟรเดอริก” สิ้นพระชนม์ในวัย 22 ปี หลังต่อสู้กับโรคทางพันธุกรรมหายากมายาวนาน
เจ้าชายโรเบิร์ตแห่งลักเซมเบิร์ก ได้ประกาศข่าวเศร้าของการจากไปของพระโอรสองค์เล็ก เจ้าชายเฟรเดอริกแห่งนัสเซา ในวัย 22 ปี โดยเจ้าชายเฟรเดอริกได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากต่อสู้กับโรคทางพันธุกรรมหายาก POLG Mitochondrial Disease มาอย่างยาวนาน
เจ้าชายโรเบิร์ตได้แสดงความเสียพระทัยผ่านข้อความที่ถูกโพสต์บนเว็บไซต์ POLG Foundation ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยเจ้าชายเฟรเดอริก เพื่อต่อสู้หาวิธีรักษาและหาทางรักษาโรค POLG
โรค POLG เป็นโรคทางพันธุกรรมหายากที่ทำลายพลังงานในเซลล์ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดการทำงานของอวัยวะหลายส่วนล้มเหลวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มูลนิธิอธิบายว่าอาการของโรคสามารถทำให้อวัยวะต่างๆ เช่น สมอง ตับ ลำไส้ และกล้ามเนื้อ รวมถึงการกลืนอาหาร ล้มเหลว
เจ้าชายเฟรเดอริก เกิดมาพร้อมกับโรคนี้ แต่การวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่ออายุ 14 ปี เมื่ออาการของพระองค์ทรุดลง
ในแถลงการณ์จาก เจ้าชายโรเบิร์ต อายุ 69 ปี และ เจ้าหญิงจูลี่แห่งนัสเซา อายุ 64 ปี ทั้งสองพระองค์ได้เผยถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่เจ็บปวดของพระโอรส ซึ่งรวมถึงการกล่าวคำลาครั้งสุดท้ายกับพ่อแม่และพี่น้องสองคน เจ้าหญิงชาร์ล็อตแห่งนัสเซา อายุ 29 ปี และ เจ้าชายอเล็กซานเดรแห่งนัสเซา อายุ 27 ปี
แถลงการณ์ระบุว่า “ด้วยใจที่หนักหน่วงมาก ภรรยาของข้าพเจ้ากับข้าพเจ้าขอแจ้งข่าวการจากไปของลูกชายของเรา ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของมูลนิธิ POLG, เฟรเดอริก”
เจ้าชายโรเบิร์ต เผยว่า ลูกชายอันเป็นที่รักของพระองค์ได้กล่าวคำลาในวันโรคหายาก ซึ่งจัดขึ้นในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้และสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับโรคหายาก
“เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ในวันโรคหายาก ลูกชายอันเป็นที่รักของเราขอให้เราไปที่ห้องของเขาเพื่อพูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย”
“เฟรเดอริกพบกำลังใจและความกล้าที่จะกล่าวคำลาทุกคนทีละคน พี่ชายของเขา อเล็กซานเดร, น้องสาวของเขา ชาร์ล็อต, ตัวข้าพเจ้าเอง, ลูกพี่ลูกน้องทั้งสามของเขา ชาร์ลีย์, หลุยส์ และโดนัลล์, พี่เขย มานซูร์ และในที่สุด ป้า ชาร์ล็อต และลุงมาร์ก”
“เขาได้พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจให้กับแม่อันยอดเยี่ยมของเขา ซึ่งไม่เคยทิ้งเขาไปไหนในระยะเวลา 15 ปี หลังจากมอบคำลาครั้งสุดท้ายให้กับแต่ละคน บางคำก็อ่อนโยน บางคำก็มีปัญญา และบางคำก็ให้ข้อคิด ด้วยสไตล์ของเฟรเดอริก เขาทิ้งมุกตลกที่เป็นตำนานของครอบครัวเราไว้กับเราเป็นครั้งสุดท้าย”
“แม้ในช่วงเวลาสุดท้ายของเขา ความตลกขบขันและความเมตตาไร้ขอบเขตของเขาทำให้เขาทิ้งรอยยิ้มสุดท้ายให้เรา เพื่อทำให้เราทุกคนมีความสุข”
เจ้าชายโรเบิร์ตได้แสดงความเสียใจเกี่ยวกับการเดินทางต่อสู้กับโรคของพระโอรส ซึ่งพระองค์กล่าวว่าเจ้าชายเฟรเดอริกได้ต่อสู้ด้วยความกล้าหาญจนถึงที่สุด
“นี่คือลมหายใจของการต่อสู้ที่เฟรเดอริกต้องเผชิญ และนี่คือภาระที่เขาต้องแบกรับตลอดชีวิต”
“เขาทำทุกอย่างด้วยความสง่างามและอารมณ์ขัน เมื่อเราถามเขาว่าอยากจะสร้างมูลนิธิเพื่อค้นหาวิธีรักษาและช่วยเหลือผู้ที่เหมือนเขาหรือไม่ เขากระโดดเข้าหาโอกาสนั้นทันที”
“แม้ว่าเขาจะทำให้ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้โรคร้ายนี้กำหนดตัวตนของเขา แต่เขาก็ยังคงเชื่อมโยงกับและช่วยกำหนดพันธกิจของมูลนิธิ POLG”
เจ้าชายโรเบิร์ตยังยกย่องอารมณ์ขันที่น่าทึ่งของพระโอรส พร้อมทั้งความฉลาดทางอารมณ์และความเมตตาที่ไม่สามารถวัดได้
“เขามีความรู้สึกยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรมที่ไม่จำกัด เขามีวินัยและความเป็นระเบียบที่เกินกว่าที่จะเชื่อได้”
หนึ่งในความทรงจำที่หวานที่สุดที่พระองค์แบ่งปันเกี่ยวกับพระโอรส เจ้าชายเฟรเดอริกคือ “คนที่แข็งแกร่งที่สุด” ที่ครอบครัวและเพื่อนๆ รู้จัก
สำหรับ เจ้าชายเฟรเดอริกแห่งนัสเซา เกิดที่เมืองอาเอ็กซ์-อ็อง-โพรว็องซ์ในประเทศฝรั่งเศส และเคยใช้ชีวิตในกรุงลอนดอน อังกฤษ ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี 2004 พระองค์เข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติในเจนีวา โรงเรียนประถมอีโคลอีเดน และโรงเรียนเซนต์จอร์จในคลาแรนส์
ขณะที่ เจ้าชายโรเบิร์ตแห่งลักเซมเบิร์ก พระบิดา ทรงเป็นพระญาติชั้นแรกของแกรนด์ดยุคอองรีแห่งลักเซมเบิร์ก พระชันษา 69 ปี ซึ่งทรงประกาศสละราชสมบัติอย่างกะทันหันในเดือนธันวาคม 2567 เพื่อให้พระโอรส เจ้าชายกีโยม ที่มีพระชันษา 43 ปี ขึ้นครองราชย์แทน