เจ้าของเซ็ง! ย่า-หลานแอบเข้าห้อง เด็กตกตึกตาย แม่ฟ้อง 5 ล้าน ฐานไม่ล็อกประตู

Home » เจ้าของเซ็ง! ย่า-หลานแอบเข้าห้อง เด็กตกตึกตาย แม่ฟ้อง 5 ล้าน ฐานไม่ล็อกประตู

ตกลงใครผิด?! ย่าพาหลาน 3 ขวบ แอบเข้าไปเล่นในห้องเพื่อนบ้าน พลาดตกตึก 20 ชั้น ก่อนฟ้องเจ้าของห้อง 5 ล้าน ฐานไม่ล็อกประตู

เหตุเกิดที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในจีน “นางหลี่” อ้างว่ารู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่บ้านตามลำพังกับหลานชาย เธอจึงพาหลานเดินไปที่ห้องของบ้านเพื่อนบ้านในอพาร์ตเมนต์ที่เพิ่งย้ายเข้ามา เพื่อดูว่าห้องของพวกเขาตกแต่งอย่างไร แม้จะพบว่าในตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในบ้าน แต่เพราะประตูเปิดอยู่เธอจึงพาหลานเข้าไปดูด้านใน

ทันทีที่เข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้าน เด็กชาย 3 ขวบก็เดินตรงไปที่ระเบียง ตั้งใจจะยื่นมือออกไปเกาะหน้าต่างดูวิวด้านนอก แต่เพราะห้องนี้ยังไม่ได้ติดกระจกหรือราวกั้นที่บริเวณระเบียง ส่งผลให้เด็กชายร่วงจากชั้นที่ 20 เสียชีวิตสลด เมื่อเห็นหลานชายอันเป็นที่รักของเธอจากไปอย่างกะทันหัน นางหลี่ก็ร้องห่มร้องไห้ใจสลาย รีบโทรหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่ทำงานอยู่ในขณะนั้น

การเสียชีวิตของเด็กทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และนางหลี่ก็โทษตัวเองมากยิ่งขึ้น แม่ของเด็กเชื่อว่าเป็นความรับผิดชอบของเพื่อนบ้าน และเรียกร้องค่าชดเชย 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท) เพราะเธอเชื่อว่าข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดคือพวกเขา “ไม่ได้ล็อกประตู” ในขณะที่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ ถ้าประตูถูกล็อกเรื่องร้ายๆ คงไม่เกิดขึ้น

ดังนั้น แม่ของเด็กจึงเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความผิดของครอบครัวของเพื่อนบ้าน และเพื่อนบ้านจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของลูกชายของเธออย่างเต็มที่ ดังนั้นพวกเขาจะต้องจ่ายค่าชดเชย 1 ล้านหยวน เพื่อชดเชยความประมาทเลินเล่อนั้น

ขณะที่ทางด้านเพื่อนบ้านคัดค้านอย่างรุนแรงต่อข้อกล่าวหาจากพ่อแม่ของเด็ก โดยชี้ให้เห็นว่ายายพาหลานชายเข้ามาภายในบ้านของเขา “โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งถือเป็นการบุกรุก เพราะบ้านเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลไม่ใช่สถานที่สาธารณะที่ใครก็ตามสามารถเข้าไปได้ ใครจะรู้ว่าทั้งสองคนมาที่บ้านเพื่อขโมยของหรือเปล่า?

“บ้านผมสร้างเสร็จหรือไม่แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ ทำไมต้องเข้ามาดูว่าตกแต่งยังไง?” เจ้าของบ้านพูดขึ้น พร้อมเผยสาเหตุที่ประตูไม่ได้ปิดล็อก ก็เพราะมีจิตรกรเข้าออกเพื่อทำงานในห้อง “ตอนนี้บ้านที่ผมที่เพิ่งซื้อไปในราคาหลายล้านหยวน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่กลายเป็นบ้านผีสิง แล้วใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้มาชดใช้ให้เรา”

ทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อโต้แย้งของตัวเอง สุดท้ายพวกเขาจึงตัดสินใจเชิญทนายจากสำนักงานกฎหมายมาความมาวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนนำคดีไปสู่ศาล ทนายกล่าวว่าในกรณีนี้ผู้ปกครองไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องเด็ก และต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์เป็นหลัก ในทางกลับกัน เจ้าของบ้านก็ไม่ได้ดูแลเรื่องความปลอดภัยที่ระเบียงอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดอันตราย จึงมีความผิดร่วมด้วย

หลังจากได้ยินความเห็นของทนาย ครอบครัวของเด็กก็ยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ โดยกล่าวว่าพวกเขาจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของบ้าน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ