เจ้าของร้านโชห่วย คว้าลูกซองขู่คู่อริ ชุลมุนแย่งปืนลั่นดับ สุดยื้อชีวิต

Home » เจ้าของร้านโชห่วย คว้าลูกซองขู่คู่อริ ชุลมุนแย่งปืนลั่นดับ สุดยื้อชีวิต


เจ้าของร้านโชห่วย คว้าลูกซองขู่คู่อริ ชุลมุนแย่งปืนลั่นดับ สุดยื้อชีวิต

เจ้าของร้านโชห่วย คว้าลูกซองขู่คู่อริ ชุลมุนแย่งปืนลั่นดับ สุดยื้อชีวิต ตำรวจเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิด สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2565 ร.ต.ท.ณัฐนันท์ เพ็ชรแท้ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในร้านสะดวกซื้อ หน้าเทศบาลตำบลหัวสะพาน หมู่ 10 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ. วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี ทราบ พร้อมนำกำลังรุดเข้าตรวจสอบ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ชำระสินค้า ภายในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย สวมใส่เสื้อยืดกีฬาแขนสั้นสีดำลายขาว ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกอาวุธปืนลูกซองยาว ยิงเข้าที่บริเวณท้องและตามลำตัว นอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายรัชพล หรือเอก อายุ 37 ปี ตำรวจและพลเมืองดีได้เร่งช่วยปั้มหัวใจยื้อชีวิต ก่อนที่หน่วยกู้ชีพส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนี้แล้วยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ110 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1กง 2968 เพชรบุรี ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิตจอดอยู่บริเวณหน้าร้านดังกล่าว ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายกมล อายุ 41 ปี เป็นเจ้าของร้านค้าดังกล่าว หลังก่อเหตุแล้วไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเพชรบุรี

เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพร้อมเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งอาวุธปืน ภาพจากกล้องวงจรปิด และเก็บคราบเขม่าดินปืนจากมือผู้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ. วันชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เคยมีปากเสียงวิวาทกันมาก่อน เคยมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี กระทั่งวันนี้ นายรัชพลฯ ผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้านดังกล่าว และมีปากเสียงกันขึ้นมาอีกเจ้าของร้าน ได้ชักปืนขึ้นมาข่มขู่ แต่นายรัชพลเข้ามาแย่งจนปืนลั่น ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องตรวจสอบภาพวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งและสอบปากคำผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ