เจ้าของร้านเปิดใจ ดราม่า ใช้บาตรพระทำหม้อชาบู ยันเสิร์ฟให้ลูกค้าจริงเป็นหม้อสแตนเลส เพราะรู้ว่าที่เคลือบสีจะมีสารออกมา หากโดนความร้อน เผยที่มาไอเดีย
จากคลิปไวรัลในติ๊กต็อก หลังมีร้านชาบูแห่งหนึ่งได้นำบาตรที่พระสงฆ์ใช้บิณฑบาต มาดัดแปลงเป็นหม้อจุ่มอาหาร จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเรื่องความเหมาะสมนั้น
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังร้านชาบู “ไม่หมูก็เนื้อ” ใน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงที่มาของการนำบาตรพระมาใช้แทนหม้อลวกชาบู โดยผู้สื่อข่าวได้พบ นายคุณาทิป คินิพันธ์ อายุ 28 ปี นายคิรินท์ ร.ฤทธิ์บุญ อายุ 28 ปี และ นายณัฐพล อ้นอินทร์ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าของร้านที่ร่วมหุ้นกันเปิดร้านชาบูแห่งนี้
นายคุณาทิป เปิดเผยว่า ร้านชาบูแห่งนี้ได้เริ่มต้นเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 ในคอนเซ็ปเป็นร้านชาบูบรรยากาศแบบแคมป์ปิ้ง ซึ่งต่อมายอดขายของทางร้านได้ตกลงเนื่องจากทางวัดลาดปลาดุกได้จัดงานวัดขึ้นหลายวัน ทำให้ลูกค้าเริ่มเข้าร้านบางตา ตนจึงได้ปรึกษากับเพื่อนๆ ว่า สงสัยร้านชาบูเราจะโดนทำของหรือคุณไสยใส่ จึงชักชวนกันไปทำบุญที่วัดเพื่อหวังจะนำน้ำมนต์จากวัดมาปะพรมที่ร้านเพื่อแก้เคล็ด
กระทั่งตนเกิดไปเห็นน้ำมนต์อยู่ในบาตรพอดี จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้านำบาตรมาเป็นภาชนะแทนหม้อจุ่มชาบูก็น่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบไอเดียนี้ ตนจึงได้ไปหาซื้อบาตรพระมา 2 ชนิดคือ บาตรรมดำแบบทั่วไปและบาตรแบบสแตนเลส ซึ่งมีมาตราฐานเดียวกับภาชนะทำอาหารทั่วไปมาทดลองทำคอนเทนต์ดู
นายคุณาทิป กล่าวต่อว่า ปรากฎว่าระหว่างที่ทดลองทำคอนเทนต์เพื่อลงคลิปในโซเซียล หม้อแบบสแตนเลสที่นำมาทดลองใช้เป็นภาชนะแทนหม้อจุ่มชาบูถ่ายภาพออกมาแล้วดูไม่สวย เพราะมีลักษณะเหมือนภาชนะหุงต้มทั่วไป ตนจึงได้นำบาตรรมดำมาทดลองถ่ายทำคอนเทนต์แทน ปรากฎว่าภาพออกมาสวยตามคอนเซ็ปที่ตนกับเพื่อนๆ ต้องการ จึงได้ถ่ายคลิปกับภาพประกอบและนำเนื้อหมูมาทดลองจุ่มดูเท่านั้น ไม่ได้มีการเสิร์ฟให้กับลูกค้าในร้านจริงๆ อย่างที่ผู้คนในโซเซียลสงสัย
เพราะตนก็ทราบดีว่าบาตรพระแบบรมดำหรือเคลือบดำนั้น หากถูกความร้อนจะมีสารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภคปะปนออกมา จึงไม่ได้นำบาตรรมดำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าเลย แต่หากมีลูกค้าต้องการใช้บาตรเป็นภาชนะสำหรับจุ่มอาหารจริงๆ ทางร้านก็จะใช้บาตรสแตนเลสซึ่งเป็นวัสดุที่ปลอดภัยเกรดเดียวกับภาชนะหึงต้มทั่วไปมาเสิร์ฟให้ลูกค้าแทน
นายคุณาทิป กล่าวอีกว่า เรื่องนำบาตรพระมาใช้แทนหม้อจุ่มชาบูนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องแล้วแต่มุมมองของคน เพราะอย่างลูกค้าที่สั่งเป็นบาตรพระนั้น ส่วนใหญ่ก็ชอบอะไรที่แปลกและแหวกแนวเพื่อถ่ายทำคอนเทนต์ส่วนตัวไว้โชว์เพื่อนๆ ส่วนลูกค้าที่เฉยๆ กับเรื่องนี้ก็จะสั่งเป็นหม้อจุ่มชาบูแบบปกติมารับประทาน ซึ่งทางร้านก็มีให้บริการไว้เช่นกัน และในอนาคตตนมีความคิดว่าจะนำบาตรแบบสแตนเลสไปเจาะหูสำหรับจับทั้งสองข้างเพื่อความสะดวกในการให้บริการและดูแตกต่างจากบาตรพระออกไป โดยในอนาคตตนจะสั่งทำฝาบาตรให้เป็นแบบวัสดุที่สามารถปิ้งย่างได้พร้อมกันอีกด้วย