เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2567 ฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง ในจังหวัดลำพูน ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าได้ตัดสินใจนำจระเข้พ่อแม่พันธุ์ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรกเริ่ม ประมาณ 17 ปี ออกจากบ่อทั้งหมด เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรงในปีนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 67 นายณัฐพากย์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง เล่าว่า เขาทำฟาร์มจระเข้มา 17 ปี เหตุการณ์มันผ่านมาได้ทุกปี ไม่เคยมีอะไรเป็นเหตุฉุกเฉินสักอย่าง แต่มาปีนี้ที่ จ.ลำพูน ฝนตกอย่างหนัก และภัยธรรมชาติ ตนต้านไม่อยู่ ปีนี้ถือว่ารุนแรงมาก
- เศร้า! หนุ่ม ตัดสินใจ เชือดจระเข้ ยกฟาร์ม กันหลุดกรง ช่วงน้ำท่วม
- เศร้า! เจ้าของพิทบลู เตรียมหาบ้านใหม่ หลังก้าวร้าว กัดยายดับ
- หนุ่มต่างชาติ สุดเอ็นดู สักรูปน้อง ‘หมูเด้ง’ สุดท้ายเจอพี่เลี้ยงช็อตฟิลเฉย
ฝนตกวันแรกไม่เป็นอะไร พอวันที่ 2 กำแพงที่อยู่ในน้ำถล่มลงมา สติตนเริ่มหลุด ต้องหาวิธีหาทางที่จะหยุดมัน วางแผนไว้ 3 แผน คือ 1.คือซ่อมบ่อแบบฉุกเฉิน ซึ่งฝนก็ยังตกอย่างหนัก ไม่สามารถทำได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งดินทรุดใกล้จะถึงกำแพงแล้วครับ อาจจะไม่ทันเหตุการ
แผนที่ 2. เคลื่อนย้ายจระเข้ออกไปไว้ที่อื่นที่ปลอดภัย ซึ่งหาแล้ว แต่ไม่มีที่ไหนใกล้ๆที่แข็งแรงพอจะให้จระเข้พ่อแม่พันธ์อยู่ได้ 3. เป็นวิธีที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ความกดดันคือกำแพงใกล้ทรุด และฝนก็ตกตลอดเวลา คือต้องรีบเคลื่อนย้ายจระเข้ออกจากบ่อแบบตาย ด้วยการชอร์ตไฟฟ้า แล้วเชือด มันเป็นการเซฟทั้งฟาร์ม เซฟทั้งคนอื่นด้วย ซึ่ง จระเข้ที่ต้องฆ่ามีทั้งหมด 125 ตัว แต่ในบ่อมีจระเข้ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ทั้งหมด 90 ตัว ตนกลัวว่าจระเข้จะข้ามไปในจุดที่กำลังแพงพังลงมา มันเหลือระยะที่ไม่มากเท่าไรแล้ว
ก่อนที่จระเข้จะหลุดออกไป จึงเป็นการตัดสินใจในสภาวะเร่งด่วน แต่ก็ปรึกษากันในครอบครัวแล้ว ทุกคนลงมติเห็นด้วยที่ต้องทำแบบนี้ เอาเรื่องของความปลอดภัยของคนไว้ก่อน ซึ่งปกติตนจะไม่ค่อยฟังเสียงใครเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันวิกฤตแล้วจริงๆ เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ต้องยอมฆ่าจระเข้ที่เลี้ยงมา 17 ปี ตนได้ลูกและไข่จากมันมาทุกปี ต้องยอม มันไม่เหลือแล้ว ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
ส่วนความรู้สึกตอนนี้ตนก็รู้สึกหวิว ๆ เมื่อวานยังเห็นจระเข้อยู่เลย แต่พอมาวันนี้มันกลายเป็นบ่อที่ว่างเปล่า ตนรู้สึกผูกพันกับจระเข้พวกนี้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็เคยลงไปถ่ายรูป เคยลงไปทำคอนเทนต์กับมัน ส่วนในอนาคตก็จะมีลูกๆ ของจระเข้เหล่านี้ขึ้นมาแทนที่ต่อไป ส่วนตัวที่ต้องฆ่าไปจะเป็นพวกตัวใหญ่ที่ตนไม่อาจจะควบคุมได้ เมื่อมันหลุดออกไป
ส่วนจระเข้ที่ต้องฆ่าทุกตัว ตนไม่ปล่อยให้สูญเปล่า คือแยกขายหนัง ส่วนเนื้อก็นำมาขายเป็นจระเข้หัน ซึ่งเป็นธุระกิจดั้งเดิมของฟาร์มตนอยู่แล้ว ก็จะมีทั้งวัวหัน หมูหัน แล้วก็มาเป็นจระเข้ เมนูจระเข้หัน นี้เพิ่งจะได้รับความนิยมในช่วงหลัง ๆ นี้ ช่วง 10 ปีแรกยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เพราะมีการต่อต้านการกินจระเข้กันอยู่ การกินเนื้อจระเข้ยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ปัจจุบันการกินเนื้อจระเข้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทางฟาร์มจึงทำจระเข้หัน ซึ่งตนทำเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย