เจ้าของตึกแทบทรุด ไปทอดกฐินกลับมา ลิฟต์หายไป 2 ตัว แอร์ สายไฟก็ไม่เหลือ โจรยกไปทั้งชุด สูญกว่า 2ล้านบาท ตร.เร่งล่าตัว
วันที่ 4 พ.ย. 65 พ.ต.ท.เจริญ เดชพ่วง สว.(สอบสวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รับแจ้งความจาก นายเนตรสิสิฐ พิสิฐธนรัตน์ อายุ 54 ปี เจ้าของอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่บริเวณ ถ.สาย363 ใกล้สี่แยกเนินสำลี ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง หลังถูกกลุ่มคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในอาคาร หลายรายการ
นายเนตรวิสิฐ กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกำลังก่อสร้างอาคารสูง 5 ชั้น แต่ปรากฏว่า ทรัพย์สินภายในอาคารที่ก่อสร้างไปกว่า 80 เปอร์เซ็น ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้าไปขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ประกอบด้วยลิฟต์ 2 ตัว เป็นลิฟต์ขนาดใหญ่ บรรจุคนได้ 8 คน แอร์ฝังบนฝ้า 2 เครื่องและแอร์ติดผนัง 3 ตัว กล้องวงจรปิดบางส่วน เหล็กและอลูมิเนียม สายไฟทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท สำหรับลิฟต์เป็นลิฟต์ใหม่ทั้งสองตัว นอกจากนี้ยังมีกระจกด้านหน้าหายไปอีกจำนวนหนึ่ง
ตนเองคาดว่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีข้อมูลภายใน และ รู้ว่าช่วงไหนไม่มีคนอยู่ โดยคาดว่าคงจะเข้าไปลงมือในช่วงที่ตนเองเดินทางไปทอดกฐินที่ต่างจังหวัด เพราะไปหลายวัน พอกลับมาก็เข้าไปตรวจสอบจึงทราบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว จึงมาแจ้งความ
ต่อมาทาง นายเนตรพิสิฐ พาไปยังอาคารที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงได้เข้าไปภายใน ขณะที่กำลังชี้ให้ดูช่องลิฟต์ ที่เหลือแต่ช่องปูนที่มีรอยถูกงัดด้านข้างจนพรุน ปรากฏว่าเป็นจังหวะที่มีเศษปูนร่วงลงมา เมื่อมองขึ้นไปพบว่า มีคนอยู่ด้านบน จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู พบกับผู้ชายรูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินกางเกงขายาวสีดำ จึงย่องขึ้นไปดูที่ชั้น 5 จนเห็นว่าหัวขโมยกำลังงัดมอเตอร์ของลิฟต์ที่เหลืออยู่ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสามารถควบคุมตัวไว้ได้
เบื้องต้น ให้การว่าทะเลาะกับเมียและได้เดินมาเก็บของเก่าเท่านั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยลิฟต์หรือไม่
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ต่างก็เห็นมีชายฉกรรจ์หลายคน เข้าไปภายในอาคาร เมื่อประมาณเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะต่างก็คิดว่าเป็นช่างเข้ามาทำงาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางโดยรอยอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหารถต้องสงสัย เพราะคนร้ายต้องใช้รถบรรทุกขนลิฟต์ไป ส่วนคนร้ายที่จับได้ขณะเข้าไปในอาคาร คาดว่าคงจะเป็นคนละชุดกับคนร้ายชุดแรก ขณะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว
