อย่างที่รู้กันดีกว่า Samsung ได้เผยโฉม AI TV ครั้งแรกในโลกและรวมไปถึงการจัด Showcase นวัตกรรมหน้าจอแห่งเอเขียตะวันออกเฉียงใต้ไปไม่นานนี้ Sanook Hitech เลยจะพาคุณไปเจาะลึกกับนวัตกรรมหน้าจอนี้กันว่า โดดเด่นอย่างไรบ้าง
Samsung VD Tech Seminar ครั้งนี้ต่อเนื่องมาจากความสำเร็จของงานเปิดตัวที่จัดขึ้น ณ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะถูกจัดขึ้นในแต่ละภูมิภาค เช่น ลาตินอเมริกา และในครั้งนี้ได้จัดขึ้นภายในประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของสุดยอดนวัตกรรมจากไลน์อัป Samsung AI TV นี้ ภายในงานซัมซุงได้นำเสนอเทคโนโลยีทีวี รวมถึงผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ดังต่อไปนี้:
- Neo QLED 8K รุ่นปี 2024 แฟลกชิพของปี ก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ AI TV ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 ซึ่งช่วยอัปเกรดให้ทุกคอนเทนต์ได้ภาพที่สดใสและคมชัดยิ่งขึ้นผ่านหน่วยประมวลผลจำนวน 512 ชุด ที่มากกว่ารุ่นก่อนถึง 8 เท่า และยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI ต่างๆ มากมาย เช่น 8K AI Upscaling Pro ที่ช่วยอัปเกรดคอนเทนต์ที่ผู้ใช้ชื่นชอบให้ได้ใกล้เคียงกับ 8K มากที่สุด AI Motion Enhancer Pro จะทำให้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แฟนๆ กีฬาใฝ่ฝันอีกฟีเจอร์หนึ่ง
มี Real Depth Enhancer Pro ที่จะเพิ่มเลเยอร์ความลึกให้เหมือนจริงเพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่ฉากเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Neo QLED 8K รวมถึงมอบประสบการณ์การรับฟังเสียงแบบสมจริงด้วย AI Active Voice Amplifier Pro ที่จะช่วยแยกเสียงรบกวนรอบข้างออกจากเสียงบทสนทนา ทำให้ได้เสียงที่แม่นยำ คมชัด และมีการเพิ่มประสบการณ์ด้านเสียงด้วยการซิงค์เสียงกับคอนเทนต์บนหน้าจอด้วย Object Tracking Sound Pro5 ทำให้ได้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มไปด้วยพลังและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ฟีเจอร์ Adaptive Sound Pro ที่จะช่วยปรับปรุงเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์และเสียงภายในห้องอย่างชาญฉลาด Neo QLED 8K ยังมีฟีเจอร์ AI ที่สามารถเข้าใจและปรับความต้องการของผู้ใช้ได้ อาทิ AI Auto Game Mode ที่จะเริ่มทำงานระหว่างเล่นเกม ฟีเจอร์นี้จะช่วยปรับภาพและเสียงให้เหมาะสมเพื่อการเล่นเกมที่ดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น AI Customization Mode จะปรับภาพแต่ละฉากตามความต้องการของผู้ใช้ ในขณะเดียวกัน ก็มี AI Energy Mode ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพ ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ Neo QLED 8K ใช้งานง่าย เป็นส่วนตัว และประหยัดพลังงานสำหรับทุกความต้องการด้านความบันเทิง
- Samsung OLED TV รุ่นปี 2024 สามารถยกระดับคอนเทนต์ให้มีความละเอียดระดับ 4K ได้ด้วยโปรเซสเซอร์ NQ4 AI Gen2 ที่ทรงพลังตัวเดียวกันกับไลน์อัป Neo QLED 4K มาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Real Depth Enhancer และ OLED HDR Pro7 ยกระดับคุณภาพของภาพไปอีกขั้น พร้อมเทคโนโลยี OLED Glare Free ซึ่งได้รับการรับรองจาก Underwriters Laboratories Inc. (UL) ว่าเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยลดการสะท้อนของแสงบนหน้าจอ พร้อมรักษาความดำเข้มเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้นและรบกวนสายตาน้อยลง
- Music Frame ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นลำโพงที่มีรูปทรงคล้ายกรอบรูป สามารถใช้เป็นกรอบรูปจริงบนผนังหรือวางตั้งไว้บนชั้น ผสมผสานเสียงระดับพรีเมียมเข้ากับดีไซน์เชิงศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Frame ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพส่วนตัวหรืองานศิลปะในขณะที่เพลิดเพลินกับเสียงไร้สายพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ และสามารถเชื่อมต่อผ่านแอป SmartThings ได้สูงสุดถึง 5 ตัว เพื่ออรรถรสในการรับฟังที่กระหึ่มมากขึ้น
- Samsung Knox Security ระบบรักษาความปลอดภัยที่จะอยู่ในทีวีซัมซุงเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลที่อยู่บนสตรีมมิ่งแอปพลิเคชันต่างๆ อย่าง ข้อมูลหรือเลขบัตรเครดิต ก็จะได้รับการป้องกันจากการแฮค และ Knox Security ยังได้รับการรับรอง Common Criteria ซึ่งเป็นที่ยอมรับใน 31 ประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเน้นที่การเสริมความแข็งแกร่งให้ทีวีทั้งในด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์
“ซัมซุงกำลังยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยการนำ AI มาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การรับชมทีวีแบบเดิมๆ ซัมซุงภูมิใจมากที่จะได้นำเสนอเทคโนโลยี Samsung AI TV ที่สำคัญของซัมซุงในงาน Samsung VD Tech Seminar ในวันนี้ ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ในปีนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคด้วย”
Yongjae Kim รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจ Visual Display ของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว
