เจอลูกชายถูกลักพาตัวเมื่อ 10 ปีก่อน แม่ไม่ดีใจ แต่แจ้งตำรวจ เผยเหตุผลสุดช้ำ

Home » เจอลูกชายถูกลักพาตัวเมื่อ 10 ปีก่อน แม่ไม่ดีใจ แต่แจ้งตำรวจ เผยเหตุผลสุดช้ำ
เจอลูกชายถูกลักพาตัวเมื่อ 10 ปีก่อน แม่ไม่ดีใจ แต่แจ้งตำรวจ เผยเหตุผลสุดช้ำ

ลูกชายที่ถูกลักพาตัวเมื่อ 10 ปีก่อน กลับมาที่บ้าน แต่ขณะที่ญาติๆ กำลังเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ผู้เป็นแม่โทรแจ้งตำรวจ

แทนที่จะดีใจที่ได้พบลูกชายอีกครั้งหลังจากแยกทางกันมานาน 10 ปี แม่กลับโทรแจ้งตำรวจอย่างเงียบๆ ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ท้ายที่สุดทำไมแม่ถึงมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่นนี้?

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ตอนนั้น นางจุง (นามสมมุติ) และ นายเทียน (นามสมมุติ) สามี ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ในวันที่ครอบครัวไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจขึ้น

โดยขณะที่นางจุงและลูกชายกำลังรอสามีไปซื้อตั๋วอยู่นั้น จู่ๆ กลุ่มคนแปลกหน้าก็เข้ามาหานางจุง คนในกลุ่มกล่าวว่ากระเป๋าเดินทางของนางจุงมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋าเดินทางของพวกเขาที่ถูกขโมยมา และต้องการตรวจสอบว่านี่คือกระเป๋าเดินทางของพวกเขาหรือไม่

เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางจุงก็ปฏิเสธและบอกว่ากระเป๋าเดินทางดังกล่าวเป็นของครอบครัวของเธอ แต่คนกลุ่มนั้นไม่เชื่อและยืนกรานให้นางจุงเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบ

เนื่องจากใกล้ถึงเวลาที่รถไฟจะออก นางจุงจึงยอมเปิดกระเป๋าเดินทางให้ตรวจสอบ เมื่อเปิดกระเป๋าเดินทาง กลุ่มคนแปลกหน้าดังกล่าวก็พบว่าไม่ใช่กระเป๋าเดินทางของพวกเขา และขอโทษนางจุงทันทีโดยบอกว่าเข้าใจผิด จากนั้นพวกเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมากจนนางจุงรู้สึกประหลาดใจมาก ก่อนจะต้องตกใจสุดขีด เมื่อรู้ว่าลูกชายวัย 7 ขวบของเธอหายตัวไป โดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอและสามีออกตามหาลูกชายทุกที่ในสถานีแต่ไม่พบลูกชาย นางจุงและสามีได้ไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าจุดที่นางจุงและลูกชายของเธอยืนอยู่คือมุมอับ ดูเหมือนว่ากลุ่มคนแปลกหน้าจะศึกษาตำแหน่งกล้องวงจรปิดที่สถานีอย่างระมัดระวัง พวกเขาปิดหน้าและเคลื่อนตัวไปในมุมซึ่งกล้องไม่สามารถเข้าถึงได้

ตำรวจได้ตรวจสอบอย่างละเอียด และพบว่านี่เป็นการลักพาตัวเด็กที่มีการวางแผนและจัดการอย่างพิถีพิถัน แต่เนื่องจากหลักฐาและข้อมูลของคนร้ายมีน้อยมาก การค้นหาเด็กชายวัย 7 ขวบจึงแทบจะเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร

ครอบครัวของนางจุงแทบทรุดตัวลงเมื่อได้รับข้อมูลนี้ นับตั้งแต่วันที่เธอสูญเสียลูก ทุกๆ วันนางจุงได้แต่จมอยู่กับความเสียใจที่ไม่ได้ดูแลลูกชายให้ดี ไม่มีวันไหนที่เธอไม่สวดภาวนาขอให้ลูกชายของเธอกลับมาอย่างปลอดภัย

การพบกันอีกครั้งหลังห่างหายจากกัน 10 ปี

ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกอยู่กับครอบครัวของนางจุงมาหลายปี กระทั่งวันหนึ่งมีเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งมาปรากฏตัวในหมู่บ้าน อ้างว่าถูกลักพาตัว ตอนนี้ต้องการกลับไปบ้านเกิดเพื่อตามหาญาติของเขา จากการสอบถามชาวบ้านก็พบว่าข้อมูลตรงกับครอบครัวของนางจุง ทุกคนแจ้งให้นางจุงและสามีมารับเด็กหนุ่มทันที 

แต่ในช่วงเวลาที่ญาติๆ มาแสดงความยินดีกับครอบครัวที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากจากกันมานาน 10 ปีนั้น นางจุงแอบเช็ดน้ำตาแล้วโทรแจ้งตำรวจอย่างเงียบๆ

เสียงเรียกของแม่ที่สูญเสียลูกของเธอ

นางจุง บอกตำรวจว่า แม้ว่าเด็กหนุ่มรายนี้จะอายุเท่าลูกชายของเธอ และสามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับเธอและสามีได้อย่างละเอียด แต่เธอค้นพบว่าใต้เส้นผมบนหน้าผากของเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่มีรอยแผลเป็นเหมือนลูกชายของเธอ

ข้อมูลสามารถปลอมแปลงได้ แต่รอยแผลเป็นที่หน้าผากของลูกชายนางจุงไม่มีทางจำผิด เธอเชื่อว่าบุคคลนี้อยู่ในแก๊งลักพาตัวที่กลับมาหลอกลวงครอบครัวของเธอ ซึ่งทันทีที่ได้รับข้อมูล ตำรวจก็มาถึงบ้านของนางจุงทันที

หลังจากการสอบสวนอยู่สักพัก ผู้ต้องสงสัยก็ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้อยู่ในแก๊งลักพาตัว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าเขาอยู่ในองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านการวางตัวเป็นเหยื่อของการลักพาตัว 

โดยหลังจากตรวจสอบข้อมูลของครอบครัวที่มีเด็กสูญหายอย่างละเอียด ก็จะแกล้งทำเป็นญาติเพื่อตามหาพวกเขา ซึ่งหากทำให้ครอบครัวของเหยื่อเชื่อได้ ก็จะมีการฉ้อโกงเงินจำนวนมหาศาลจากครอบครัวเหล่านี้

ตำรวจเสฉวนดำเนินการสอบสวนทันที และพบว่ามีการฉ้อโกงจากคนกลุ่มนี้

สำหรับครอบครัวของนางจุง ความเจ็บปวดแสนสาหัสจากการสูญเสียลูกยังคงอยู่ ที่น่าเสียใจไปกว่านั้นคือยังจับคนลักพาตัวไม่ได้ และลูกชายก็ยังไม่กลับมาอีกด้วย แต่นางจุงยังหมดความหวัง เธอมีความเชื่อว่าสักวันหนึ่งลูกชายของเธอจะกลับมาอย่างแน่นอน

ปัจจุบันกลวิธีของอาชญากรลักพาตัวเด็กมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปกป้องเด็กจากความเสี่ยงที่จะถูกลักพาตัว พ่อแม่จำเป็นต้องจัดเตรียมทักษะที่เรียบง่ายแต่สำคัญอย่างยิ่งให้กับลูกๆ เพื่อช่วยพวกเขาในการปกป้องตนเอง

ต่อไปนี้เป็นกฎบางประการในการสอนลูกๆ ของคุณ

1. ห้ามพูดคุยหรือรับของขวัญจากคนแปลกหน้า

2. ตะโกนเสียงดังเมื่อคนแปลกหน้าดึงหรือพาไป

3. จำหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองและหมายเลขฉุกเฉินของตำรวจไว้เสมอ

4. ห้ามเปิดประตูให้คนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยเด็ดขาด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ