จากเหตุการณ์ที่นายพิชิต กลีบจินดา (ต้น) อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เสียชีวิตปริศนา ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้น้องสาวผู้เสียชีวิตเดินทางมาร้องเรียนกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความให้ช่วยเหลือทางด้านคดี พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า ก่อนที่นายพิชิตจะเสียชีวิต ภรรยาได้โทรศัพท์ให้ขึ้นไปหาที่ บ้านโพธิ์งาม ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 ผ่านไปเพียงข้ามคืน เวลา 6 โมงเช้า ของวันที่ 16 เมษายน 2567 ก็ได้รับแจ้งว่านายพิชิตเสียชีวิตแล้ว จึงทำให้น้องสาวผู้สงสัยว่าถูกฆาตกรรม หรือไม่
น้องสาวของ CEO ต้น เล่าให้ทนายเดชา ฟังว่า นายพิชิตชอบไปกินดื่มอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ผิดสังเกตที่ว่าคืนนั้น (9 เมษายน) ไปคนเดียว พอสอบถามพี่ชายก็บอกว่าอยากมาดูอะไรบางอย่าง และคืนนั้นพี่ชายถูกคนร้ายลอบยิงหลายนัด แต่โชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต
หลังผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาไม่กี่วัน ภรรยาของพี่ชายได้โทรศัพท์ให้ไปหา ที่บ้านโพธิ์งาม ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม โดยพี่ชายเดินทางไปวันที่ 15 เมษายน 2567 แค่เพียงข้ามคืน ก็ได้รับแจ้งว่าพี่ชายเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ช่วง 6 โมงเช้า ของวันที่ 16 เมษายน 2567 จึงทำให้สงสัยว่าพี่ชายถูกฆาตกรรมหรือไม่
นอกจากนี้ยังสงสัยประเด็นการจัดพิธีเผาศพอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เรื่องนี้ยังมีพิรุธหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพศพของพี่ชาย ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าตายจากการเจ็บป่วยไม่ชัดเจน หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะโดนวางยา เพราะพี่ชายมีกรมธรรม์ประกันภัยไว้ 16 ล้านบาท สาเหตุที่เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชน และทนายความ เนื่องจากไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ยางสีสุราช แต่คดีไม่คืบหน้า
มีเบอร์ปริศนาโทรนัดมาเจอ ก่อนถูกลอบยิง!?
18 พฤษภาคม 2567 พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า หลังจากนายพิชิต เสียชีวิต ทาง สน.วังทองหลาง จะต้องนำรายละเอียดคดีของพื้นที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม มาเป็นข้อมูลประกอบเพื่อหาว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
สำหรับคดีพยายามฆ่านายพิชิต หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.วังทองหลาง โดยเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีบุคคลใกล้ชิดโทรศัพท์นัดหมายให้ออกมาทานข้าวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา นายพิชิต จึงเดินทางมาด้วยรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด เมื่อถึงสถานที่นัดหมายแล้ว บุคคลใกล้ชิดเกิดเปลี่ยนใจยกเลิกนัด ระหว่างที่นายพิชิต เดินทางกลับมาถึงช่วงก่อนขึ้นทางด่วน มีคนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามมาประกบด้านซ้าย แล้วชักปืนออกมารัวยิง 4 นัด แต่กระสุนไม่โดนนายพิชิต
ส่วนประเด็นผู้เสียหายมีความขัดแย้งกับใครจนถูกลอบยิง ผกก.สน.วังทองหลาง ระบุว่า ตำรวจไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องเจ้าตัวมีรายได้ค่อนข้างมากแต่เกินอายุ เรื่องทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้หลายฉบับ หรือเรื่องขัดแย้งส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งตำรวจต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าคนร้าย 2 คน เป็นใคร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ เมื่อจับกุมคนร้ายได้แล้ว ก็จะเชื่อมโยงไปถึงผู้จ้างวาน หรือผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายไม่รู้จักกับนายพิชิต และถูกจ้างวานมาก่อเหตุ
พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวอีกว่า ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้สืบสวนหาตัวคนร้ายมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ และมาทราบภายหลังว่าผู้เสียหายคดีซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.วังทองหลาง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 เมษายน อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิตแล้ว คดีนี้ก็ยังไม่สิ้นสุดลง โดย สน.วังทองหลาง ยืนยันว่าคงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนหาตัวคนร้ายต่อเนื่อง ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก
สรุปช่วงเวลา
- มีนาคม 67 เคยทะเลาะกันปัญหาเรื่องมือที่สาม ภรรยาพร้อมลูก 3 คน เดินทางกลับไปที่บ้าน อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม
- 9 เมษายน 67 นายพิชิต เคยถูกลอบยิง เหตุเกิดท้องที่ สน.วังทองหลาง เป็นคดีพยายามฆ่า
- 10 เมษายน 67 ญาติๆและครอบครัว พาไปรดน้ำมนต์ กับพระ ถึง 2 วัด เพื่อสะเดาะเคราะห์
- ก่อนเสียชีวิต ภรรยา โทรมา ให้ขึ้นไปหาที่บ้านดงเมืองน้อย อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม พร้อมกับส่งตั๋วเครื่องบิน มาให้ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 67
- 15 เมษายน 67 ญาติๆ พาไปส่งสนามบินดอนเมือง
- 16 เมษยน 67 ญาติได้รับแจ้งว่านายพิชิต เสียชีวิตตอน 6 โมงเช้า
- 19 เมษายน 67 จัดพิธีเผาศพ
- คดี จ้างวานสั่งเก็บ ต้น พิชิต กลีบจินดา ของ สน.วังทองหลาง ไม่คืบหน้า
- คดีดับปริศนา พื้นที่ของ สภ.ยางสีสุราช พบข้อพิรุธมากมาย
- ญาติๆไปตรวจพบ ต้น พิชิต กลีบจินดา ทำประกันชีวิต ไว้หลายบริษัท วงเงินประมาณ 16 ล้านบาท และได้ทำเรื่องคัดค้านการจ่ายสินไหมให้กับเมียผู้รับผลประโยชน์
ที่มา : บิ๊กเกรียน365