เจอป่วนหน้าเวทีมาแล้วทุกรูปแบบ ลำเพลิน วงศกร ให้กำลังใจรุ่นน้อง โจอี้ ภูวศิษฏ์ โดนปาเงินใส่หน้า วอนแฟนเพลงให้เกียรติศิลปิน
ยกหูโทรให้กำลังใจ โจอี้ ภูวศิษฐ์ ที่โดนแฟนคลับปาเงินใส่หน้า สำหรับลูกทุ่งโอปป้า ลำเพลิน วงศกร ที่เป็นห่วงนักร้องรุ่นน้องคนสนิท ยอมรับว่าถ้าตนเจอเหตุการณ์แบบนั้นก็ตกใจเหวอเหมือนกัน
โดย ลำเพลิน ที่มาถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ “ขี้เมาเอาแต่ใจ” ซึ่งฟีเจอริ่งกับ “ลำใย ไหทองคำ” ณ โรงแรมอลิซาเบธ ถ.ประดิพัทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ประสบการณ์หน้าเวทีที่เคยเจอมาทุกรูปแบบ ทั้งโดนแฟนเพลงกระชากตกเวที โดนปาเงินใส่ รวมทั้งมีคนเมามาหาเรื่องถึงหน้าเวที พร้อมกันนี้ ยังได้ให้กำลังใจ โจอี้ ภูวศิษฏ์ หลังโดนแฟนคลับปาเงินใส่หน้าเวที วอนแฟนเพลงให้เกียรติศิลปิน
เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ หน้าเวทีคอนเสิร์ตบ้างไหม? “จริงๆ เรื่องพวกนี้ผมโดนมาก่อนแล้วเหมือนกัน เคยดึงตกเวทีด้วยแล้วผมก็ไปเต้นกับเขา แล้วค่อยขึ้นมาบนเวที ถามว่าโกรธมั้ย มันก็ได้แค่โกรธแหละ เพราะคนที่ดึงเขาก็รับเราไว้อยู่ คนที่ดึงเป็นผู้หญิงน่าจะเมา โอ้โห กลิ่นละมุดฟุ้งเลย เจอแบบนี้ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นเราก็รู้วิธีนั่งแล้ว ล็อกไว้เลย”
แฟนคลับมากระชากเราแบบนี้ จัดการยังไง? “บางครั้งผมก็บอกสห. พี่ๆ จัดการคนนี้หน่อย มีครั้งหนึ่งเมาทั้งแก๊งเลย เดินมาชี้หน้าผมว่า มึงไม่หล่อเลย โกรธตรงนี้แหละ ว่าเราเสียงไม่ดีเราไม่โกรธ มาว่าเราไม่หล่อได้ไง ผมก็ถามมากันกี่คน ไปเจอกูหลังเวทีหน่อย วันนั้นมีพี่สห.ประมาณ 10 กว่าคน ผมก็บอกเขาว่า พี่ๆ มีคนมาหาเรื่องผม ถ้าแก๊งพวกนั้นเดินมา ถ้าผมพยักหน้า พี่จัดการได้เลยนะ คือตอนนั้นเรายังเป็นเด็กครับ ช่วงนั้นไปคอนเสิร์ตกับน้องเต๊ะ ตระกูลตอ ช่วงนั้นยังเป็นวัยรุ่น เราจะไปเถียงอยู่หน้าเวทีมันก็ไม่ได้ไง”
“ก็เคยโดนโยนเงินมาเหมือนกัน ผมก็ก้มเก็บครับ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร เขาโยนมาให้เรา เราก็เก็บ”
ในฐานะศิลปินร้องเพลงอยู่แล้วเขาโยนมาให้แบบนี้ เรารู้สึกยังไง? “ตอนนั้นผมไม่รู้เลยครับว่ามันเป็นอะไร ผมมองไม่ชัดว่าเขาโยนมาแบบไหน ลักษณะการให้มันแตกต่างกัน เพราะผมร้องบนเวทีที่เป็นหลุมแบบกลมๆ เขาก็โยนลงมา เขาชื่นชอบเราหรือเปล่า ผมก็เก็บเอาถุงหูหิ้วมาใส่ ตอนที่เขาโยนมามันก็โดนตัวผม ก็เจ็บนะ ผมก็มองหน้า แล้วก็ก้มเก็บ ถามว่าโกรธไหม ผมไม่รู้เหมือนกันเจตนาเขายังไง เขาโยนแล้วเขาก็ยิ้ม ก็โอเคเขาอยากให้เรา ก็คิดว่าเขาอยากให้เงินเรา ผมก็ก้มเก็บ”
แล้วเวลาไปร้องตามร้าน มีเหตุการณ์ที่แฟนคลับทำอะไรเราไหม? “ก็มีครับ ส่วนมากจะหยิกมือ เขาอาจจะหมั่นไส้ผม ผมก็ไม่ได้หยิกคืน มันหยิกคืนไม่ทัน ผมก็มองหน้า เขาก็น่าจะรู้ว่าผมเจ็บ เขาก็เลยหยิกเบาลง”
มีเหตุการณ์ไหนถึงขั้นยุติกลางคัน ไม่เล่นต่อไหม? “เคยมีครับ มันมีครั้งหนึ่งผมต้องหยุดกะทันหันแล้วให้น้องมาเล่นแทน ผมรู้สึกวูบ จังหวะเรานั่งลงไปแล้วลุกขึ้นมาหน้ามืดเป็นครั้งแรกที่เคยเป็นแบบนั้น ต้องหยุดกะทันหันเพราะว่าเราจะเป็นลม ก็เลยให้เพื่อนขึ้นมาร้องแทน”
“แต่ถ้ามีคนตีกัน ผมก็ปล่อยให้เขาตีกันก่อนครับ บางคนอาจจะคิดว่าถ้าคนตีกันให้เล่นเพลงช้าๆ ไม่ใช่ ผมเล่นเพลงนักเลงเก่าอย่างเดียวเลย เขาก็มาเต้นแล้วก็ไม่ตีกัน”
วิธีการจัดการของเราปล่อยไหลตามน้ำ? “ครับ อยากตีก็ให้ตีกันไปเลย ผมคิดว่ามันไม่เหนื่อยหรือไงมาตีกัน มันจะไปตีกันทำไม ผมไม่เคยห้ามเลยว่าอย่าตีกันนะ มันเจ็บ ผมปล่อยไปเลย แล้วเขาก็เลิกตีกันจริงๆ นะ เขาอาจจะเหนื่อยหรือวิ่งไม่ทัน ซึ่งมันเหมือนชีวิตจริงของผม ผมเคยทำอย่างนั้น ผมเคยวิ่งหนี ผมไม่เคยตีเขา ผมไปเที่ยวแล้วเคยโดนเขาไล่ตี ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่รู้จักเขาเลย เขาก็วิ่งมาจะต่อยเลย ผมก็วิ่งหนี เราไปกันไม่เยอะ ต้องวิ่งครับ”
อยากจะบอกแฟนเพลงที่ไม่น่ารักไม่ให้เกียรติศิลปินยังไงไหม? “หลายกรณีที่เกิดขึ้น บางทีแฟนเพลงก็รักศิลปินในแบบที่เป็นอีกแบบหนึ่ง สำหรับผมมองว่าศิลปินไม่เหมือนกันครับ บางคนอาจจะง่ายๆ สบายๆ แต่บางคนอาจจะมีมุมหนึ่งของเขา แต่แฟนเพลงอาจจะคิดว่าศิลปินเหมือนกันทุกคน คนนี้อาจจะหยอกได้ก็เลยคิดว่าต้องหยอกได้เหมือนกันหมด ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าขว้างใส่ลำเพลินวันนั้น ลำเพลินก็อาจจะเหวอเหมือนน้องเหมือนกัน ก็ได้โทรไปให้กำลังใจน้องโจอี้ครับ”
ความรู้สึกน้องโจอี้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? “น้องโจอี้บอกว่าตกใจครับ คือเห็นแล้วไม่คิดว่าเขาจะขว้างขึ้นมาจริงๆ แต่น้องก็ไม่ได้โกรธคิดว่าเขาน่าจะเมา แต่ก็เหวอไปนิดนึง ผมแค่บอกว่าไม่เป็นไรหรอกโจอี้ เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างสังคมเขาจะตัดสินเอง เราก็ห่วงความรู้สึกน้อง ถ้ามันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง มันก็อาจจะเกิดขึ้นซ้ำสอง ถ้าเราไม่ออกมาช่วยกันปกป้องเรื่องแบบนี้ มันก็จะเกิดขึ้นอีก”
“สำหรับแฟนเพลงผมก็อยากจะขอร้อง รักศิลปินในสิ่งที่เขาเป็น อย่ารักในสิ่งที่ตัวเองอยากให้เขาเป็น ศิลปินมีอยู่แค่ไม่กี่คน แต่พวกคุณมีเยอะ ยังไงเราก็ต้องอาศัยแฟนคลับแฟนเพลงอยู่แล้ว สิ่งที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ก็คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน”