‘เจษ’เฟ้นงานพัฒนาตัว คบ‘วิว’3ปีบ่ยั่นอาถรรพ์รัก – หลังร่วมงานบวงสรวงละคร “วิมานทราย” ทางช่องวัน 31 แล้ว นักแสดงหนุ่ม ‘เจษ’ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ ก็ปลีกตัวมาให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทการแสดงใน เรื่อง รวมถึงอัพเดตชีวิตในช่วงนี้ และความรักกับแฟนสาว ‘วิว’ วรรณรท สนธิไชย
รับบทเป็นใครในละคร “วิมานทราย”?
เจษ – “รับบท ภาณิน ครับ เป็นคนรักแรง โกรธแรง ค่อนข้างจริงจังกับชีวิต เป็นลูกทายาทโรงแรมดัง เป็นความหวังเดียวของครอบครัวแล้วก็มีน้องคนหนึ่งที่เขารักมาก ดูแลเหมือนลูกชายคนหนึ่ง วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตน้องชายต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลทั้งเขาและนางเอกครับ”
คาแร็กเตอร์ไกลตัวเลยไหม?
เจษ – “ไกลตัวครับ เพราะเขา เป็นคนที่อายุน่าจะโตกว่าผม ทำงานบริษัทจริงจัง แล้วต้องดูแลทุกอย่างในครอบครัว มีความเกรี้ยวกราดต่างๆ ที่ชีวิตจริงเราอาจจะไม่ได้เป็นถึงขั้นนั้น”
เรื่องนี้เล่นคู่กับ ‘เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา’ เคมีเข้ากันดี?
เจษ – “คือเรื่องเคมีคงต้องให้คนดูตัดสินแหละว่าชอบหรือเปล่า แต่ส่วนตัวของผมเวลาเข้าฉากกับน้องคือสบายใจมากเพราะน้องเป็นคนเก่งมาก เราเล่นอะไรไปก็รับส่งได้ตลอด ส่งมาให้เราดีเสมอครับ”
ฉากเลิฟซีนดุเดือด ตามอารมณ์โกรธเกรี้ยวกราด?
เจษ – “จริงๆ เรื่องนี้ไม่เยอะครับ พล็อตเรื่องมันเกี่ยวกับเรื่องอื่นด้วยที่ไม่ใช่เรื่องพระนางอย่างเดียว เราไม่ได้เน้นเรื่องเลิฟซีน โรแมนติก เพราะถ้ายิ่งเน้นกลัวคนจะรู้สึกว่าเราไปยัดเยียดอะไรให้คนดู ก็เล่าไปตามเรื่อง มันก็สนุกของมันเองครับ”
เรื่องนี้เรารับเล่นเพราะอะไร?
เจษ – “จริงๆ ไม่เคยเล่นบทแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายซัพพอร์ตนางเอก แต่พอมาเรื่องนี้เราจะเข้าใจผิดนางเอกแล้วร้ายกับนางเอกนิดนึง มีคาแร็กเตอร์ในตอนแรก ตอนกลาง และตอนหลัง เป็น 3 แบบที่ ต่างกัน เลยรู้สึกว่าเล่นเรื่องนี้น่าจะสนุก”
เล่นอารมณ์ 2 ขั้ว ต้องใช้เอ็นเนอร์จีสูง?
เจษ – “ใช่ครับ ต้องมีเอ็นเนอร์จีตอนที่รักกัน และตอนที่โกรธกันครับ มันมีความสำคัญหมดว่าสิ่งไหนมันถูกเชื่อมไปถึงสิ่งไหน ถามว่ายากไหม ก็ยากหมด บทละครแต่ละเรื่องขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนในแต่ละฉาก แต่ละวันเราก็ไม่เหมือนกัน เรานอนหลับ นอนไม่หลับ มันยากหมดครับ แต่ถ้าเรื่องนี้น่าจะเป็นการบาลานซ์ให้ดีว่าเราทำยังไงที่จะโกรธนางเอกเกลียดนางเอกให้คนดูไม่รู้สึกเกลียด เราครับ”
ประทับใจอะไรในกองละครนี้?
เจษ – “เป็นอะไรที่เราค่อนข้างสบายใจ เวลาไปออกกองทุกคนทำงานร่วมกัน ไม่ค่อยเครียด ก็ค่อยๆ สร้างสรรค์ พัฒนากันไป ทุกครั้งที่ไปกองมีความสุขทุกครั้ง ยังไงก็ฝากละครวิมานทราย ขอให้ช่วยกันติดตามด้วยครับ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่องวัน 31 ครับ”
ตอนนี้ดูผอมลงไปเยอะ?
เจษ – “ผอมลงครับ มันลดลงเอง ผมเป็นคนออกกองแล้วจะผอม ช่วงล็อกดาวน์น้ำหนักก็ขึ้นมานิดนึง ตอนนี้ลงไปน่าจะ 2 กิโลฯ ได้ เเต่หน้าจะดูเล็กลง หลังๆ เพิ่งได้กลับไปออกกำลังกาย จริงๆ พื้นฐานผมเป็นคนกินน้อย ไม่กินจุบจิบ แล้วยิ่งไปออกกองมันบังคับให้เรากิน 3 มื้อแค่นั้น พอเราไม่กินจุบจิบแค่ 3 มื้อก็จบครับ”
ได้กลับมาทำงานเเล้ว หลังเจอพิษโควิด?
เจษ – “ดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังหยุดพักไปนาน แต่จริงๆ ผมว่าก็มีข้อดีของมันอยู่ ระหว่างที่เราทำงานอยู่ บางทีเราไม่ได้ทบทวนสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน เพราะทุกอย่างเร่งรีบไปหมด แต่พอเราได้พักก็ได้ย้อนดูว่าอะไรที่เราอยากจะปรับปรุง แก้ไข หรือรู้สึกว่ายังดีไม่พอ เราก็ไปทำอีกครั้งด้วยแรงไฟจากการพักนานๆ ก็ทำให้ดีขึ้นครับ”
เราหยุดพัก และเลือกที่จะรับละครมากขึ้น?
เจษ – “จริงครับ แต่ก็ไม่เชิงเบรก เราผ่านจากช่วงที่ต้องเก็บประสบการณ์จากละครหลายๆ เรื่องมาแล้ว รู้สึกว่าเราอยากรับบทบาทที่เปลี่ยนไปบ้าง ในแต่ละเรื่องที่ต่อกัน รู้สึกว่ามันก็จะดีกับเรา ดีต่อคนดูด้วย ในการที่จะรับสิ่งที่มันน่าสนใจกว่าเดิม ผมรู้สึกว่าถ้าเราเล่นเหมือนเดิม คนดูก็จะดูเราเหมือนเดิม มันก็จะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น น่าสนใจ”
มีลิมิตในการเลือกรับละคร?
เจษ – “จริงๆ ไม่ได้เลือกรับแบบรับน้อย แต่หมายถึงว่าคือถ้ามันดีเยอะ ก็รับเยอะ เราจะรับแต่เรื่องที่เรารู้สึกว่ามันปรับเปลี่ยน แล้วก็พัฒนาเรา เหมือนว่าเราโตขึ้น เมื่อก่อนเราอยากเก็บประสบการณ์มากกว่า อยากเล่นละครเยอะๆ แล้วได้ประสบการณ์จากแต่ละกองที่ไม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เราเก็บประสบการณ์มาแล้ว เรารู้สึกอยากจะเล่นบทบาทที่เราอยากเล่นจริงๆ หรือที่เปลี่ยนแปลงเราจริงๆ อาจจะเป็นเเนวฉีกๆ เเบบเเปลกๆ ไปเลยที่ไม่เคยทำ”
วายเลยไหม?
เจษ – “ถ้าวายจะเกินผมไปนิด แต่ถ้ามันเมกเซนส์ผมว่าผมโอเคครับ ผมไม่เกี่ยง ไม่ได้เป็นคนแอนตี้ หรือไม่เห็นด้วยกับความรักแบบนี้ เพราะชีวิตจริงมันก็มีแบบนี้ ผมรู้สึกว่าเราสามารถตีแผ่ในมุมของละครได้ ถ้าเรื่องราวมันน่าสนใจ”
แสดงว่าไม่ยึดติดกับบทพระเอก?
เจษ – “ใช่ครับ ช่องเสนออะไรมา ถ้าเราเล่นแล้วสนุก แล้วคนดูจะได้เห็นอะไรที่ต่างจากที่เราเคยเล่นมาก็น่าสนใจครับ หมายถึงว่าบทที่รับก็ต้องเป็นบทที่สำคัญกับเรื่อง บางทีอาจจะไม่ใช่พระเอกแต่เป็นคอนฟิกสำคัญหลักๆ ของเรื่อง ก็น่าสนใจอยู่ครับ”
ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
เจษ – “ก็เจอกันอยู่ตลอด แต่ก็จะมากินข้าวที่บ้านกับพ่อแม่ เพราะไปข้างนอกไม่ได้ ถามว่าสนิทกันมากขึ้นไหม คือสนิทอยู่แล้วครับ”
ในโซเชี่ยลเหมือนเราเป็นคนคลั่งรัก?
เจษ – “เหรอครับ ผมไม่รู้สึกเลยครับ”
เราคลั่งรักอยู่แล้วเลยไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า?
เจษ – “คงต้องไปถามเขานะ แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าผมคลั่งรักหรือเป็นคนหวานอะไรนะ เขาบอกว่าผมเป็นคนเฉยๆ นิ่งๆ อย่างที่คอมเมนต์เขาในไอจีเป็นแซวเล่นๆ มากกว่า เวลาเขาลงรูปสวยๆ หรือลงรูปเซ็กซี่นิดนึง เราก็จะเป็นทรงหมั่นไส้มากกว่า ถามว่าหวงไหม หวงครับ หวงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ในเรื่อง ไอจีหรือการทำงาน เราค่อนข้างไว้ใจกันให้แต่ละคนทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าสมควร แล้วเราก็เชื่อว่าเขารู้ว่าความพอดีของเขาอยู่แค่ไหนเราเลยไม่ค่อยได้เข้าไปห้ามอะไรครับ”
มีปรึกษาจะทำอะไรด้วยกันไหม?
เจษ – “ก็มีลองคุย อาจจะทำออนไลน์ด้วยกัน ทำช่องยูทูบ ผมว่าสมัยนี้คนอาจจะเข้าไม่ถึงศิลปินดาราที่อยู่ในจอทีวี แล้วก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนตัวตนเป็นยังไง การให้เขาได้รู้ตัวตนของเรา ถือว่าเป็นข้อดี”
เป็นช่องคู่กันกับวิวเลยไหม?
เจษ – “อันนี้ต้องรอดูอีกทีว่าคิวเป็นยังไง เพราะผมเพิ่งปิดกล้อง แล้วเขาเพิ่งเปิดกล้อง สลับกัน คอนเทนต์ก็จะเป็นอะไรที่ทำให้เห็นตัวตนของเรา และตัวตนของคนที่อยู่ในแต่ละอีพี”
ช่วงนี้จะมีทริปสวีตไหม?
เจษ – “น่าจะอีกสักพักเลยครับ เพราะสถานการณ์ด้วย มันยังไม่ชัวร์ว่าเปิดหรือไม่เปิดร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็เปิดกล้องละครแล้ว คิวตอนนี้เหมือนสลับกัน ถ้ามีว่างสักอาทิตย์นึงอาจจะลองคิดว่าจะไปไหนดี”
วันครบรอบเรามีหวาน?
เจษ – “จะเป็นเทอมยาวๆ มากกว่า ไม่ใช่ทุกเดือน อย่างปีนึงก็เข้าใจได้ ถือเป็นวันสำคัญแล้วก็ทำอะไรให้กันหน่อย แต่ถ้าทุกเดือนก็ไม่ไหวครับ ถังแตก”
เขางอนไหมที่เราชอบลืมวันสำคัญ?
เจษ – “ช่วงแรกๆ จะไม่เข้าใจกัน แต่ช่วงหลังๆ เริ่มชินแล้วแหละว่าผมก็ลืมเป็นปกติ รักครับ”
ตอนนี้กี่ปีแล้ว?
เจษ – “ 3 ปีครับ ถามว่ากลัวไหมเลขปี 3-5-7-9 ถ้าถามเขา เขาก็จะบอกว่าผมหมดโปรตั้งแต่ปีแรกแล้ว เลยไม่ได้กลัวอะไรครับ”
สุชาวดี อภิสัมภินวงค์